นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู (BANPU) ในฐานะนายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) คาดว่า กำไรของบริษัทจดทะเบียนในปี 54 นี้ จะปรับลดลงไม่มาก แม้ในไตรมาส 4/54 จะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เนื่องจากกำไรในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยเฉพาะในไตรมาส 2/54 บจ.ส่วนใหญ่ทำกำไรมีสถิติสูงสุด ประกอบกับมองว่า ธุรกิจกลุ่มธนาคาร และ กลุ่มพลังงานไม่น่าจะได้รับผลกระทบน้ำท่วม
แต่อย่างไรก็ตาม เห็นว่า ผลกระทบดังกล่าวจะเห็นชัดเจนในปี 55 ซึ่งจะต้องประเมินกันอีกครั้ง แต่เนื่องจากภาครัฐได้ปรับลดการจ่ายภาษีนิติบุคคลลดลง 7% หรือคิดเป็นวงเงินประมาณ 3 - 6 หมื่นล้านบาท จะช่วยชดเชยผลกระทบและความเสียหายจากน้ำท่วม อีกทั้ง ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ที่เป็นปัจจัยที่บริษัทจดทะเบียนกังวล
"ตอนนี้ คงยังไม่สามารถประเมินเม็ดเงินความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วม ว่าจะมากหรือน้อยแค่ไหน สิ่งที่เราจะต้องเร่งคือการช่วยฟื้นฟูให้เร็วที่สุด ส่วนกำไรจะออกมาอย่างไร ก็เข้าใจได้ และมองว่ากำไร บจ. คงจะอยู่ที่ปัจจัยภายนอกมากกว่า ส่วนผลกระทบน้ำท่วมเป็นผลกระทบในระยะสั้น" นายชนินท์ กล่าว
ทั้งนี้ จากการรวบรวมตัวเลขทั้งจากสมาคม บจ. และ ตลาดหลักทรัพย์ พบว่า มีบจ.จำนวน 100 - 150 แห่ง ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนยานยนต์ โดยขณะนี้ได้มีการประเมินและแจ้งไปยังบริษัทจดทะเบียนต่างๆว่า จะต้องการความช่วยเหลือด้านใดบ้าง แต่ในเบื้องต้นทางสมาคมบจ.ได้คุยกับสมาชิก ที่จะหาเงินสนับสนุนในการช่วยเหลือสมาชิก โดยประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 200 ล้านบาท โดยจากการหารือเบื้องต้นบริษัทที่อยู่ใน SET50 จะให้เงินช่วยเหลือจำนวน 2-5 ล้านบาท และลดหลั่นกันไปสำหรับ บจ. นอก SET50
สำหรับ บมจ.บ้านปู (BANPU) นั้น นายชนินทน์ กล่าวว่า บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ถึงแม้จะมีคลังสินค้าในจ.ลพบุรี แต่ระดับน้ำไม่รุนแรง ส่วนผลการดำเนินงานในปี 54 ยังไม่มีการประเมินใหม่ และคาดว่าจะไม่ต้องทบทวน ยังคงเป็นไปตามแผนเดิม เพราะธุรกิจบ้านปูส่วนใหญ่อยู่นอกประเทศ