นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการด้านภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ประสบภัยน้ำท่วม เนื่องจากมองว่าเมื่อกิจการได้รับความเสียหายก็ส่งผลต่อกำไรของธุรกิจลดลงโดยอัตโนมัติ ภาระการจ่ายภาษีก็ลดลงไปด้วย และค่าใช้จ่ายจากความเสียหายที่เกิดขึ้นก็สามารถนำไปหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้เต็มจำนวน
แต่แนวทางที่กระทรวงการคลัง คือ เน้นให้การช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SME) ซึ่งหากมีการลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่จะให้ความยืดหยุ่นในการหักค่าเสื่อมราคาได้เต็มจำนวนในปีแรก รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในการนำเข้าเครื่องจักร เพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทุน
นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดที่จะให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(SME Bank) จัดวงเงินสินเชื่อแบบผ่อนปรนให้ธุรกิจเอสเอ็มอี ขณะเดียวกันจะให้มีการสนับสนุนสินเชื่อผ่านธนาคารพาณิชย์ด้วย โดยจะให้บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เพิ่มวงเงินค้ำประกันจากปัจจุบันในสัดส่วน 15%ของวงเงินสินชื่อ
ทั้งนี้ ได้เตรียมวงเงินจำนวน 5 หมื่นล้านบาท และยังมีวงเงินต้ำประก้นธูรกิจเกิดใหม่อีก 1 หมื่นล้านบาทเพื่อเสริมสภาพคล่องธุรกิจ โดยจะเป็นการค้ำประกันในสัดส่วน 50% โดยธุรกิจเกิดใหม่ดังกล่าวต้องดำเนินํธุรกิจไม่เกิน 2 ปี และธนาคารพาณิชย์ต้องมีการพิจารณาความเป็นไปได้ของธุรกิจประกอบด้วย