นายอิสระ วงศ์รุ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม น่าจะส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์ในประเทศในปีนี้ลดลง 3 แสนคัน เหลือ 1.5 ล้านคัน จากเป้าหมายที่ 1.8 ล้านคัน ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศคาดว่าจะลดลง 4 หมื่นคัน เหลือ 9 แสนคัน จากเป้าที่ตั้งไว้ 9.4 แสนคัน ประเมินว่ายอดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ทั้งระบบในปีนี้จะลดลง 5 หมื่นล้านบาท จากเป้าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 6.5 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์น้ำท่วมจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทฯไม่มากนัก เนื่องจากช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ทำได้เกินเป้าหมายแล้ว โดยบริษัทฯสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทั้งสิ้น 4.41 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 4.33 หมื่นล้านบาท ทำให้ยอดสินเชื่อคงค้างของบริษัทฯในปัจจุบันเพิ่มเป็น 6.49 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ตัวเลขสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ในปัจจุบันอยู่ที่ 0.88% ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 1.77% ทั้งนี้ บริษัทฯประเมินว่าตัวเลข NPL ในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็นไม่เกิน 1% จากเหตุการณ์น้ำท่วม ขณะที่กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 342 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
ปัจจุบันมีลูกค้าของบริษัทฯที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมได้เข้ามาขอความช่วยเหลือแล้ว 250 ราย จากจำนวนลูกค้าทั้งหมดที่ 1.5 แสนราย โดยบริษัทคาดว่าจะมีลูกค้ามาขอความช่วยเหลือไม่เกิน 7.5% ของลูกค้าทั้งหมด ซึ่งบริษัทฯได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าแล้ว
ลูกค้าบุคคลที่ใช้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใช้แล้ว สินเชื่อรถช่วยได้ และสัญญาเช่าทางการเงิน จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียม และเบี้ยปรับล่าช้า รวมทั้งปรับลดยอดการผ่อนชำระและยืดเวลาการชำระค่างวด โดยลูกค้าที่เป็นหนี้ขาดผ่อนชำระไม่เกิน 30 วันจากปัจจุบันจะสามารถปรับลดการผ่อนค่างวดรายเดือนสูงสุดไม่เกิน 50% ของยอดผ่อนชำระปกติเป็นระยะเวลานานสูงสุด 12 เดือน และขยายระยะเวลาการผ่อนชำระจากสัญญาเดิมสูงสุดไม่เกิน 6 เดือน และรวมสัญญาเดิมต้องไม่เกิน 7 ปี ส่วนลูกค้ากลุ่มดีลเลอร์รถยนต์ ที่ใช้บริการสินเชื่อผู้แทนจัดจำหน่ายรถยนต์ทางบริษัทฯจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือเป็นราย ไป
นายอิสสระ กล่าวว่า สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีหน้าคาดว่าจะยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย เพียงแต่จะมีอัตราการเติบโตที่ลดลง ทั้งนี้บริษัทฯจะมีการประเมินแนวทางการดำเนินธุรกิจในปีหน้าอีกครั้ง