ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดบ่ายวันนี้ที่ระดับ 909.10 จุด ลดลง 29.09 จุด(-3.10%)มูลค่าการซื้อขาย 21,711.19 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 925.70 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันที่ 902.63 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 84 หลักทรัพย์ ลดลง 425 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 72 หลักทรัพย์
นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากผิดหวังเรื่องการแก้ปัญหาหนี้สินในยุโรป หลังมีการออกมาปฏิเสธข่าวที่จะมีการขยายวงเงิน EFSF ซึ่งขณะนี้ก็ต้องไปรอดูว่าผลการประชุมผู้นำสหภาพยุโรปในวันที่ 23 ต.ค. จะมีมาตรการอะไรออกมาหรือไม่
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยถือว่าปรับตัวลงแรงกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคที่ติดลบเฉลี่ยประมาณ 1% เนื่องจากถูกกดดันจากสถานการณ์น้ำท่วม ขณะนี้น้ำจากตอนกลางของประเทศเริ่มไหลโอบล้อมเข้าใกล้และไหลเข้ามาในพื้นที่ กทม.แล้ว ทำให้มีแรงขายหุ้นบิ๊กแคปขนาดใหญ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(21 ต.ค.)นายสมชาย กล่าวว่า ถ้าสถานการณ์ต่างๆไม่เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะเรื่องน้ำท่วม ตลาดฯก็มีโอกาสที่จะรีบาวน์ได้บ้าง แต่กรอบการรีบาวน์คงไม่ได้กว้างนัก เพราะปัญหายังไม่จบ พร้อมให้แนวรับ 905 และ 900 จุด แนวต้าน 925 และ 930 จุด
"วันนี้ในช่วงเช้าปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก ช่วงบ่ายก็ลงต่อ แต่ก็มีแรงซื้อกลับบ้างเป็นช่วงๆเมื่อลงแรง ปัจจับต่างๆยังไม่เปลี่ยน โดยรวมยังมีความผันผวน...ส่วนจะหลุด 900 จุด หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์น้ำท่วมเป็นหลัก ถ้าน้ำไม่มีเข้ามาให้ตกใจเหมือนเมื่อคืนก็ไม่น่าหลุด เพราะสถานการณ์ในยุโรปก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง"นายสมชาย กล่าว
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,826.20 ล้านบาท ปิดที่ 277.00 บาท ลดลง 13.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,504.61 ล้านบาท ปิดที่ 13.60 บาท ลดลง 0.70 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,479.91 ล้านบาท ปิดที่ 111.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,350.64 ล้านบาท ปิดที่ 133.00 บาท ลดลง 5.50 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,237.48 ล้านบาท ปิดที่ 288.00 บาท ลดลง 10.00 บาท