นายพีท ริมชลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ (HTECH) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในขณะนี้ แม้บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงเนื่องจากโรงงานไม่ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม แต่บริษัทได้เตรียมแผนปรับลดการผลิตของกลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นโดยได้พุ่งเป้าการผลิตไปรองรับลูกค้ากลุ่มที่ยังไม่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม อาทิ ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง นิคมอุตสาหกรรม Well Grow และลูกค้าในภาคตะวันออกทั้งหมด
อีกทั้งกำลังการผลิตบางส่วนได้ส่งออกไปยังต่างประเทศโดยเฉพาะที่ประเทศฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ จีน อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และอเมริกา โดยผ่าน Halcyon Technology (Philippines) Inc. (HP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องมือตัด (Cutting Tools) ที่ทำให้คาดว่าจะได้รับผลบวกจากเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่บ้าง
"อุทกภัยในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมของไทยอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งต้องยอมรับว่าในส่วนของ HTECH คงจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมีหลายบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับ HTECH ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะโรงงานผลิตชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมชิ้นส่วน HARD DISK DRIVE (HDD) และชิ้นส่วนรถยนต์ แต่จากการที่มีกลุ่มลูกค้าบางส่วนได้เริ่มมีการระดมซื้อเครื่องจักรใหม่จำนวนหนึ่งเข้ามาทดแทนส่วนที่เสียหาย และได้มีการโยกการผลิตไปยัง Supplier ที่ยังไม่ถูกน้ำท่วม เพื่อประคองการผลิตให้ได้มากที่สุด
เชื่อว่าทันทีที่ลูกค้ากลุ่มนี้พร้อมเดินเครื่องใหม่ น่าจะทำให้ HTECH ได้รับประโยชน์สูงสุด เพราะกระบวนการผลิตของเรามีความคล่องตัวกว่าต่างประเทศ สามารถรับงานและส่งมอบได้ในระยะเวลาอันสั้นโดยจะช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่จะกู้กำลังการผลิตและเริ่มเดินเครื่องให้ได้เร็วที่สุด นอกจากนี้เรายังเดินหน้าขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม NON-HDD อื่นๆ และกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในอนาคต"
จากผลกระทบในครั้งนี้คาดว่าน่าจะใช้เวลาฟื้นตัวไม่ต่ำกว่า 3-6 เดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะมีความสามารถในการช่วยกอบกู้วิกฤตของความเสียหายครั้งนี้ รวมถึงให้ความช่วยเหลือกับผู้ประกอบการที่ประสบภัยได้รวดเร็วและมากน้อยเพียงใด ซึ่งบริษัทก็หวังว่าลูกค้าต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจะฟื้นตัวได้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมของ HTECH ในส่วนของผลการดำเนินงาน ณ สิ้นไตรมาส 3/2554 ถือว่ายังเป็นไปตามเป้าหมายที่เคยได้วางไว้
สำหรับไตรมาส 4/2554 อาจจะต้องปรับแผนใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เพื่อดูความชัดเจนและแนวโน้มต่างๆ ของลูกค้า และยังคงรักษาสัดส่วนรายได้จากการส่งออกร้อยละ 40 ในประเทศประมาณร้อยละ 60 ขณะที่สัดส่วนรายได้หลักยังคงมาจากกลุ่ม HDD ร้อยละ 75 และกลุ่ม Non-HDD ร้อยละ 25