ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำสัปดาห์: มีมูลค่าการซื้อขายรวม 299,128 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 21, 2011 17:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (17-21 ตุลาคม 2554) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้มีมูลค่ารวมมีมูลค่ารวม 299,128 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 59,826 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ประมาณ 8% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้วจะพบว่ากว่า 89% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 265,132 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (State Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ในขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 27,963 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 3,771 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9% และ 1% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ

สำหรับพันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือ รุ่น LB21DA (อายุ 10.2 ปี), LB15DA (อายุ 4.1 ปี) และ LB14NA (อายุ 3.1 ปี) มีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 8,377 ล้านบาท 3,202 ล้านบาท และ 3,024 ล้านบาทตามลำดับ ส่วนพันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือรุ่น CB11N07A (อายุ 14 วัน), CB11N08A (อายุ 14 วัน) และ CB11N17C (อายุ 28 วัน) มูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 72,450 ล้านบาท 52,236 ล้านบาท และ 15,211 ล้านบาท ตามลำดับ

ทางด้านหุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกนั้น ได้แก่หุ้นกู้ของบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (HEMRAJ19OA (A-)) มูลค่าการซื้อขาย 604 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) (MBK137A (A)) มูลค่าการซื้อขาย 398 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI12NA (A+)) มูลค่าการซื้อขาย 351 ล้านบาท

เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield Curve) ปรับตัวลดลงเล็กน้อยตลอดทั้งเส้น หรือโดยเฉลี่ยแล้วปรับตัวลดลงประมาณ 5 Basis point (100 Basis point มีค่าเท่ากับ 1%) ทั้งนี้ภาพรวมของการซื้อขายตราสารหนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมายังถือว่าค่อนข้างเงียบต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้า เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายๆจังหวัดของประเทศไทยในขณะนี้ ที่เริ่มลุกลามและทวีความรุนแรงมากขึ้น และเริ่มขยายวงกว้างเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ซึ่งคาดว่าในที่สุดแล้วรัฐบาลจะต้องใช้ระยะเวลาบวกกับงบประมาณจำนวนมากในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ประเด็นดังกล่าวนี้ได้กลายมาเป็นแรงกดดันให้การซื้อขายตราสารหนี้ในสัปดาห์นี้ค่อนข้างซบเซา ในขณะที่ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในช่วงกลางสัปดาห์ ได้มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 3.50% ต่อไปเช่นเดิม ซึ่งถือเป็นการคงดอกเบี้ยไว้ครั้งแรก จากการประชุมใน 8 ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนมองว่าแนวโน้มของดอกเบี้ยภายในประเทศน่าจะเริ่มคงที่ และอาจเปลี่ยนไปสู่วัฏจักรขาลงได้ในอนาคต จึงมีผลทำให้เส้นอัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลงตามไปด้วยตลอดทั้งเส้น

ทางด้านนักลงทุนต่างชาติ มีมูลค่าการซื้อขายลดลงเมื่อเทียบกับในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,202 ล้านบาท ทั้งนี้มูลค่าการซื้อขายส่วนใหญ่ของนักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงเน้นไปในตราสารระยะสั้น (มีอายุคงเหลือน้อยกว่า 1 ปี) เป็นหลัก และสำหรับนักลงทุนรายย่อย ที่ถึงแม้จะมีสัดส่วนของการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดค่อนข้างน้อย แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงมียอดซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่องอีกประมาณ 1,112 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ