ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) หลังจากมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำหนดนโยบายของยุโรปกำลังพิจารณาเรื่องการอนุมัติวงเงินมูลค่า 1.3 ล้านล้านดอลาร์เพื่อใช้ในการควบคุมวิกฤตหนี้ยูโรโซน และกำลังหาทางคลี่คลายปมขัดแย้งระหว่างเยอรมนีและฝรั่งเศสในเรื่องการเพิ่มเงินทุนให้กับกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ในการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 23 ต.ค.นี้
ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 103.97 จุด ปิดที่ 5,488.65 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นหลังจากราคาทองแพงในตลาดลอนดอนทะยานขึ้ 6.1% โดยหุ้นริโอทินโตพุ่งขึ้น 4.5% หุ้นอันโตฟากัสต้า พุ่งขึ้น 5.5%
ส่วนหุ้นบีจี กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 2.7% หลังจากโนมุระ โฮลดิ้งส์ ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นบีจี
หุ้นอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเทลส์ กรุ๊ปส์ ทะยานขึ้น 5% หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ ได้จัดอันดับหุ้นอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเทลส์ อยู่ในกลุ่ม “high conviction"
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ของอังกฤษขยายตัวสูงสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากยอดการใช้จ่ายไปกับอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น แล็ปท็อป โดยยอดค้าปลีกซึ่งนับรวมเชื้อเพลิงขยายตัวขึ้น 0.6% จากระดับเดือนส.ค.