ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์พุ่ง 104.83 จุดรับผลประกอบการแข็งแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 25, 2011 06:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวควบรวมกิจการของภาคเอกชนในสหรัฐ รวมทั้งรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทแคททาร์พิลลาร์ อิงค์ และความคาดหวังที่ว่าผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) จะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการหาแนวทางควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะและการเพิ่มทุนให้กับกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ในการประชุมรอบสองซึ่งจะมีขึ้นในวันพุธนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 104.83 จุด หรือ 0.89% ปิดที่ 11,913.62 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 15.94 จุด หรือ 1.29% ปิดที่ 1,254.19 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 61.98 จุด หรือ 2.35% ปิดที่ 2,699.44 จุด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นหลังจากบริษัท แคทเทอร์พิลลาร์ อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้างและเหมืองแร่ เปิดเผยว่ารายได้สุทธิไตรมาส 3 ของบริษัทพุ่งขึ้น 44% สู่ระดับ 1.14 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.71 ดอลลาร์ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้วที่ระดับ 792 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.22 ดอลลาร์ต่อหุ้น มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 1.54 ดอลลาร์ต่อหุ้น

นอจากนี้ แคททาร์พิลลาร์ระบุว่า ยอดขายของบริษัทพุ่งขึ้น 41% สู่ระดับ 1.57 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปี 2554 ด้วย

ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นเมื่อนักลงทุนคาดว่า ผู้นำอียูจะสามารถสรุปการตัดสินใจเรื่องการเพิ่มทุนให้กับธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนและการเพิ่มขนาดของกองทุน EFSF ในการประชุมรอบสองซึ่งจะมีขึ้นในวันพุธนี้ แม้ผู้นำอียูยังคงมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับขนาดของความเสี่ยงที่ผู้ถือพันธบัตรรัฐบาลกรีซจะต้องแบกรับก็ตาม

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นายวิลเลียม ดัดลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างเชื่องช้าในเวลานี้

ขณะเดียวกันตลาดได้รับแรงหนุนหลังจากเอชเอสบีซีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในภาคการผลิตของจีนขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 51.1 จุดในเดือนต.ค. จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 49.9 จุด และทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดการนำเข้าเดือนก.ย.ขยายตัว 12.1% สู่ระดับ 34.4771 ล้านล้านเยน

นอกเหนือจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งแล้ว ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากข่าวการควบรวมกิจการของบริษัทหลายแห่ง รวมถึงข่าวออราเคิล คอร์ป เตรียมเทคโอเวอร์กิจการไรท์นาว เทคโนโลยีส์ อิงค์ ซึ่งข่าวดังกล่าวหนุนหุ้นออราเคิลพุ่งขึ้น 2.3% และหุ้นไรท์นาวทะยานขึ้น 19.4%

หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวเซส (เอเอ็มดี) พุ่งขึ้นกว่า 6% ขณะที่หุ้นเท็กซัส อินสตรูเมนท์ พุ่งขึ้นเกือบ 4% และหุ้นนาวิเดียทะยานขึ้นกว่า 3% ส่วนหุ้นแคททาร์พิลลาร์พุ่งขึ้น 5%

ส่วนบริษัทที่จะรายงานผลประกอบการในช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาประเทศไทย ได้แก่ 3M, ดูปองท์ และยูไนเต็ด สเตท สตีล

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์จะเปิดเผยราคาบ้านเดือนส.ค. และคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนต.ค. ส่วนวันพุธ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย. และยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.

วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3 และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ย.

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคลเดือนก.ย. และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนต.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ