นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) คาดว่า ยอดขายปูนซิเมนต์ในปี 55 ของบริษัทจะเติบโตตามตลาดรวมที่คาดว่าจะเติบโตมากว่า 5% จากปี 54 ที่คาดว่ายอดขายจะไม่เติบโต แม้ว่าในช่วง 9 เดือนจะมียอดขายเติบโต 3% แต่ในไตรมาส 4/54 คาดว่ายอดขายจะลดลงจากผลกระทบภาวะน้ำท่วม โดยทั้งปี 54 คาดว่าจะมียอดขายปูนฯอยู่ที่ 28-29 ล้านตัน
ปัจจัยที่ทำให้ยอดขายปูนซิเมนต์ในปี 55 เพิ่มสูงขึ้น มาจาการซ่อมแซมหลังน้ำลดแล้ว ยังมีโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ของรัฐบาลเริ่มทยอยก่อสร้าง รวมไปถึงการพัฒนาที่อยูอาศัยเพิ่มขึ้น และคาดว่าจากปัจจัยดังกล่าวจะทำให้ยอดขายของปูนซิเมนต์โดยรวมในอีก 4-5 ปีข้างหน้าจะเติบโตมากกว่า 5%
"ยอดขายปูนซีเมนต์ในไตรมาส 4 คิดว่าติดลบ ทั้งปีคิดว่าเสมอตัว...SCG (เครือซิแมนต์ไทย)มีมาร์เก็ตแชร์มากสุด ( 40%) คาดว่าเราจะโตไปตามตลาดโดยรวม"นายกานต์ กล่าว
นายกานต์ คาดว่า หลังการน้ำลดแล้วจะเร่งการผลิตสินค้าวัสดุก่อสร้าง และอาจจะมีการขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการหลังน้ำลด
ขณะที่ยอดขายรวมในปี 54 คาดว่าจะได้ตามเป้าหมายที่คาดว่าจะเติบโตกว่า 20% หรือมียอดขายเกินกว่า 3.6 แสนล้านบาท เนื่องจากในช่วง 9 เดือนบริษัทมียอดขายแล้ว 2.8 แสนล้านบาท เติบโต 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าในไตรมาส 4/54 คาดว่ายอดขายรวมจะลดลง 10-15% จากไตรมาสเดียวกนของปีก่อนที่มียอดขาย 7.8 หมื่นล้านบาท โดยยอดขายกลุ่มกระดาษคาดว่าจะลดลง 20-25% , กลุ่มปิโตรเคมี ลดลง 15-20% และ กลุ่มซีเมนต์ ลดลง 10-15%
นอกจากนี้ นายกานต์ แสดงความกังวลยอดขายของกลุ่มปิโตรเคมีในปี 55 ว่า อาจจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรป ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณการส่งออกลดลงในช่วงเดือน ส.ค.จนถึงขณะนี้ ลูกค้าต่างประเทศไม่สั่งสินค้าสต็อก เพราะไม่มีความมั่นใจการแก้ไขหนี้ในยุโรป และอาจจะทำให้กระทบความต้องการที่แท้จริง
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่จะมีผลต่อบริษัท นายกานต์ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานใหญ่บางซื่อ และโรงงานอื่นของบริษัท ยังไม่ได้รับผลกระทบใดจากเหตุการณ์น้ำท่วม แต่บริษัทได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเตรียมสถานที่ทำงานสำรองที่พัทยา และจะอนุญาตให้พนักงานที่สำนักงานใหญ่หยุดงานเป็นการชั่วคราว โดยพนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้ ก่อนหน้านี้ได้ย้ายหน่วยงานปฏิบัติงานสนับสนุนธุรกิจจากสำนักงานใหญ่ไปยังสถานที่สำรองที่ปลอดภัยก่อนหน้านี้เป็นเวลา 4 สัปดาห์ ตามแผนการบริหารจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจ