ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์พุ่ง 339.51 จุดหลังที่ประชุมอียูแก้ปัญหาหนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 28, 2011 06:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (27 ต.ค.) ขานรับผลการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป (อียู) ที่ลงมติใช้มาตรการควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มขนาดของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในไตรมาส 3

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 339.51 จุด หรือ 2.86% ปิดที่ 12,208.55 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 42.59 จุด หรือ 3.43% ปิดที่ 1,284.59 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 87.96 จุด หรือ 3.32% ปิดที่ 2,738.63 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 6.5 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 9 ต่อ 1

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักหลังจากที่ประชุมสุดยอดผู้นำอียูมีมติให้ใช้มาตรการควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะไม่ให้ลุกลามไปยังประเทศอื่นๆที่มีความสำคัญในเชิงระบบของยูโรโซน เช่นอิตาลี โดยมาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงการเพิ่มขนาดให้กับกองทุน EFSF เป็น 1 ล้านล้านยูโร (1.37 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) และปรับลดมูลค่าพันธบัตร หรือการทำ haircut ของรัฐบาลกรีซซึ่งถือครองโดยธนาคารเอกชนลงในสัดส่วน 50%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนมากขึ้นเมื่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า จีดีพีที่แท้จริงประจำไตรมาส 3 ปี 2554 ขยายตัวขึ้นแตะ 2.5% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 1 ปี และยังช่วยคลายกังวลที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

ทั้งนี้ แม้มาตรการดังกล่าวยังไม่สามารถมีผลบังคับใช้ได้จนกว่าจะถึงเดือนธ.ค. แต่นักลงทุนตอบรับผลการประชุมสุดยอดผู้นำอียูอย่างคับคั่ง เนื่องจากการเห็นพ้องต้องกันของ 17 ชาติสมาชิกยูโรโซนสะท้อนให้เห็นว่า ผู้นำยูโรโซนมีความกระตือรือร้นที่จะแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณะเพื่อไม่ให้ปัญหาดังกล่าวลุกลามออกไป

นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน ฟันด์กล่าวว่า ปัญหาหนี้สาธารณะจะยังคงเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อตลาดไปจนกว่าเศรษฐกิจของประเทศที่ประสบปัญหาหนี้ อย่างกรีซและอิตาลี จะส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน

หุ้นดาว เคมิคอล พุ่งขึ้น 8.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 3 พุ่งขึ้น 59% เพราะได้แรงหนุนจากยอดขายที่แข็งแกร่งในละตินอเมริกา ขณะที่หุ้นแอคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม คอร์ป พุ่งขึ้น 9.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้พุ่งขึ้น 50%

หุ้นซิตริกซ์ ซิสเต็มส์ อิงค์ ในกลุ่มเทคโนโลยี พุ่งขึ้น 17.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการเพิ่มขึ้น 29% หุ้นอาคาไม เทคโนโลยีส์ พุ่งึ้น 15% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ