สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (21 - 25 เมษายน 2568) มีมูลค่ารวม 447,712 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 89,542 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 88% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 51% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 226,847 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสาร ที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 173,049 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 16,272 ล้านบาท หรือคิดเป็น 39% และ 4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB29NA (อายุ 4.6 ปี) LB456A (อายุ 20.2 ปี) และ LB303A (อายุ 4.9 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 23,198 ล้านบาท 19,794 ล้านบาท และ 16,000 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รุ่น WHA283B (A-) มูลค่าการซื้อขาย 1,149 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) รุ่น MTC266E (A-(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 829 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) รุ่น PTTGC341A (AA-(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 810 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวผันผวนประมาณ 2-6 bps. มาจากปัจจัยในประเทศเป็นหลัก นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) รายงานว่า รัฐบาลสามารถขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็น 75-80% จากเดิมที่ 70% หากจำเป็น ขณะที่มีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติต่อเนื่องจากก่อนหน้า ด้านปัจจัยต่างประเทศ เอสแอนด์พี โกลบอล รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ ประจำเดือนเม.ย. ปรับตัวลงสู่ระดับ 51.2 จากระดับ 53.5 ในเดือนมี.ค. จากความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจลดลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของนโยบายรัฐบาลสหรัฐฯ ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 2.8% และ 3.0% ในปี 2568 และ 2569 ลดลงจากเดิมที่คาดการณ์เมื่อเดือนม.ค. ที่ระดับ 3.3% สำหรับปี 2568 และ 2569 เนื่องจากมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
สัปดาห์ที่ผ่านมา (21 - 25 เมษายน 2568) กระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 18,406 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (ST) (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 9,540 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (LT) (อายุมากกว่า 1 ปี) 8,877 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 10 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price Index) เปลี่ยนเป็น ดัชนีหุ้นกู้เอกชน(MTM Corp Bond Gross Price Index) ตั้งแต่ ม.ค. 2565
ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (21 - 25 เม.ย. 68) (16 - 18 เม.ย. 68) (%) (1 ม.ค. - 25 เม.ย. 68) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 447,712.21 238,579.77 87.66% 6,725,681.70 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 89,542.44 79,526.59 12.59% 86,226.69 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 110.99 111.11 -0.11% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (MTM Corp Bond Gross Price Index) 108.53 108.6 -0.06% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (25 เม.ย. 68) 1.66 1.65 1.64 1.56 1.59 1.91 2.11 2.6 สัปดาห์ก่อนหน้า (18 เม.ย. 68) 1.68 1.67 1.66 1.5 1.61 1.88 2.08 2.6 เปลี่ยนแปลง (basis point) -2 -2 -2 6 -2 3 3 0