นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกของ บมจ. เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ (APCO) เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 50 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.80 บาท ในระหว่างวันที่ 27-28 และ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน โดยมีนักลงทุนแสดงความสนใจจองซื้อหุ้น IPO ของ APCO เข้ามามากกว่าจำนวนหุ้นที่เสนอขาย
ทั้งนี้เป็นผลมาจากความโดดเด่นทางธุรกิจของบริษัท ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตก้าวกระโดด จากความต้องการผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและความงามที่ปรับตัวสูงขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งบริษัทมีแผนในการขยายตลาดทั้ง 2 ส่วนออกไปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พื้นฐานทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่ง อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงและมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการขยายตลาดในต่างประเทศ
ราคาเสนอขายหุ้น IPO ของ APCO ถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยมี P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดเอ็มเอไอที่ 18.8 เท่า หรือ คิดเป็นส่วนลดประมาณ 35% อีกทั้งบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนแสดงความสนใจจองซื้อหุ้นของบริษัทเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนทำให้การเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ
“การเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอเป็นวันแรกของ APCO ในวันที่ 4 พ.ย.นี้ เชื่อว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้ เนื่องจากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง อีกทั้งมีแผนการดำเนินงานที่สามารถขยายธุรกิจและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีศักยภาพ โดยคาดว่าในปีนี้ต่อเนื่องไปจนถึงปี 55 ผลการดำเนินงานของบริษัทจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ค่อนข้างโดดเด่นกว่าที่ผ่านมา"นายวิชา กล่าว
ศจ.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา กรรมการผู้จัดการ APCO กล่าวว่า ความสำเร็จของการเสนอขายหุ้น IPO ส่วนหนึ่งเกิดจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับเล็งเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตอันเกิดจากแผนธุรกิจที่ชัดเจน ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ภายหลังจากการระดมทุน
โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปลงทุนในสำนักงานสาขาในประเทศจำนวน 10 แห่ง และจัดตั้งสำนักงานขายต่างประเทศเพื่อขยายฐานลูกค้า เบื้องต้นประกอบด้วย ดูไบ สิงคโปร์ และฮ่องกง อีกทั้งจะนำไปสำรองเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการตลาด การประชาสัมพันธ์ ให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักในวงกว้างภายหลังจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทวางจำหน่ายในร้านโมเดิร์นเทรดในช่วงไตรมาส 4/54
“การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย การขยายกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งการออกผลิตภัณฑ์ใหม่และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องมือในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของ APCO ซึ่งเราคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอย่างน้อย 20% ต่อปี และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน ผู้ถือหุ้นทุกท่านด้วยเช่นกัน"ศาสตราจารย์พิเชษฐ์ กล่าว