ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อข่าวที่ว่ารัฐบาลกรีซจะจัดทำประชามติเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนตัดสินใจว่าจะยอมรับข้อตกลงการกู้วิกฤตหนี้ของประเทศหรือไม่ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดเสียงคัดค้านและความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 3.5% ปิดที่ 235.06 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีร่วงลง 306.83 จุด หรือ 5.0% ปิดที่ 5,834.51 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,762.26-5,947.58 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสร่วงลง 174.51 จุด หรือ 5.38% ปิดที่ 3,068.33 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,057.26-3,181.66 จุด และดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 122.65 จุด หรือ 2.21% ปิดที่ 5,421.57 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,338.36-5,544.22 จุด
นายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีกรีซประกาศว่า รัฐบาลกรีซจะจัดการทำประชามติเพื่อให้ประชาชนมีส่วนตัดสินใจว่าจะยอมรับข้อตกลงในมาตรการแก้ไขวิกฤติหนี้หรือไม่ ซึ่งความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ผู้นำยุโรปได้ทำข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซและยูโรโซน ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมถึงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบ 2 สำหรับกรีซในวงเงิน 1.30 แสนล้านยูโร และการปรับลดมูลค่าพันธบัตรรัฐบาลกรีซลง 50%
ผลสำรวจความเห็นครั้งล่าสุดระบุว่า ชาวกรีซเกือบ 60% มีความเห็นคัดค้าน หรืออาจคัดค้านต่อข้อตกลงในการประชุมสุดยอดของสหภาพยุโรป (อียู) ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นายโรเบิร์ต โซลิก ประธานธนาคารโลกเตือนว่า หากชาวกรีซลงมติไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว ก็จะทำให้กรีซเผชิญกับวิกฤตที่ร้ายแรง
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นเครดิต สวิส ร่วงลง 8.2% หุ้น Danske Bank ซึ่งเป็นธนาคารของเดนมาร์ก ดิ่งลง 6.8% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับสองของอังกฤษ ดิ่งลง 9.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.เป็นต้นมา ขณะที่หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ดิ่งลง 8.1% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหลังจากสมาพันธ์โลจิสติกและการจัดซื้อแห่งชาติของจีน (CFLP) เปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ขยายตัวที่ระดับ 50.4 จุดในเดือนต.ค. ลดลง 0.8 จุดจากเดือนก.ย.ที่ขยายตัว 51.2 จุด โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 2.7% หุ้นริโอทินโตร่วงลง 3.9% หุ้นอันโตฟากัสต้าร่วงลง 4.5%