บมจ.เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น(ประเทศไทย)(SIS)คอตกยอดขายต.ค.ดิ่งกว่า 30% ส่งผลให้ยอดขายในไตรมาส 4/54 วูบแน่ หลังเจอผลกระทบน้ำท่วมนานกว่า 1-2 เดือน แต่เชื่อทั้งปียังทำรายได้สูงกว่าปี 53 ที่มีรายได้รวม 1.6 หมื่นล้านบาท เพราะช่วง 9 เดือนแรกทำได้สูงกว่าปีก่อนแล้ว ส่วนยอดขายในไตรมาส 3/54 ดีกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาส 2/54 แต่ยังรอลุ้นกำไรว่าจะดีกว่าหรือไม่
ทั้งนี้ ยอมรับอุตสาหกรรมไอทีโดยรวมปีนี้ต่ำกว่าคาดจาก 12% เหลือโต 8-10% และปีหน้าคาดว่าภาพรวมโตต่ำกว่า 10% ส่วนหนึ่งสินค้าไอทีขาดตลาดหลังโรงงานใหญ่เวสเทิร์น ดิจิตอล ถูกน้ำท่วมหนักยังเปิดผลิตไม่ได้
นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ SIS เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ยอดขายเดือน ต.ค.ตกไปกว่า 30% แล้วจากผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม และหากยิ่งยืดเยื้อหรือหนักกว่านี้ถึงขั้นเต็มพื้นที่กรุงเทพฯ ยอดขายอาจตกหนักกว่านี้ เพราะจะทำให้การจัดส่งสินค้าไม่สามารถทำได้
"ยอดขายกระทบเยอะเพราะแค่ช่วงน้ำเริ่มมีปัญหารุนแรงขึ้นยอดขายก็ตกไปกว่า 30% แล้ว เพราะผลกระทบโดยตรงคือส่งของไม่ได้ ถนนขาด ขึ้นเหนือก็ลำบาก ภาคกลางก็ท่วม ลูกค้าหลายรายอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม บางรายจมน้ำ ปิดบริษัทก็ไม่มีอารมณ์จะซื้อ"นายสมชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตัวคลังสินค้าของบริษัทยังไม่ถูกน้ำท่วม เพราะอยู่ใกล้นิคมฯลาดกระบัง ซึ่งทางการพยายามป้องกันนิคมฯลาดกระบังไว้ ทำให้บริษัทได้รับอานิสงส์ไปด้วย แต่พนักงานก็หายไป 20% เพราะอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม
สำหรับรายได้รวมปี 54 นี้ถ้าเทียบกับปีก่อนเชื่อว่าจะดีกว่า เพราะ 9 เดือนแรกของปีนี้รายได้ทำได้มากกว่าทั้งปี 53 ที่ 16,584 ล้านบาทแล้ว แต่กำไรยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนยอดขายไตรมาส 4/54 คงตกแน่นอน เพราะน้ำท่วมรอบนี้อาจจะนานถึง 1-2 เดือน
"ไตรมาส 4 รับผลกระทบหนัก ยอดขายคงดิ่ง ถ้ากรณีเลวร้ายสุดน้ำเต็มพื้นที่กทม.รถวิ่งส่งของไม่ได้ยอดขายก็จะหายไปเยอะ ยังดีที่ต่างจังหวัดไม่มีปัญหา เพราะภาคเหนือที่เรามีสาขาที่เชียงใหม่,อีสานขอนแก่น,ใต้หาดใหญ่ ภูเก็ต,ตะวันออกพัทยา ล้วนเป็นพื้นที่ปลอดภัย"
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3/54 ในแง่ของรายได้ดีกว่าไตรมาส 2/54 ที่มีรายได้ 5,867 ล้านบาทเล็กน้อย และดีกว่าไตรมาส 3/53 ด้วย แต่กำไรยังไม่แน่เพราะเดือนก.ย.เริ่มมีผลกระทบจากน้ำท่วมแล้ว อย่างไรก็ตาม ปกติไตรมาส 3 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุด และปีนี้ก็ยังดีอยู่เพราะเป็นช่วงปิดงบฯราชการ เอกชนก็ยังดี เพราะส่วนใหญ่การจัดซื้อไปกระจุกตัวในไตรมาส 2-3
ทั้งนี้ ปกติภาพรวมอุตสาหกรรมไอทีจะโตปีละ 10-12% แต่ปีหน้า (ปี 55) หลังเกิดเหตุน้ำท่วมช่วงปลายปีนี้การเติบโตอาจจะต่ำ 10% เล็กน้อย แต่เชื่อว่ายังเติบโตอยู่ เพราะอัตราการใช้สินค้าไอทีของไทยยังต่ำอยู่ยกเว้นจะมีอุปสรรคเรื่องซัพพลายที่ไม่รู้ว่าอุตสาหกรรมไอทีจะฟื้นตัวได้ทันหรือไม่ เพราะโรงงานฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (HDD) ที่ใหญ่ที่สุด คือบริษัทเวสเทิร์น ดิจิตอล (ประเทศไทย) ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมนวนครถูกน้ำท่วมยังไม่รู้จะกลับมาเปิดได้เมื่อใด
"ตอนนี้ของหมดเกลี้ยง รับปากไม่ได้ว่าจะส่งของได้เมื่อไร เพราะซัพพลายเออร์ที่ใหญ่สุดทำกลุ่ม HDD หลักคือเวสเทิร์น ดิจิตอล ถ้ามีปัญหาไม่มีของขายจะกระทบโดยตรงกับสินค้าไอที และผลกระทบโดยอ้อมกับหลายผู้ผลิตโน้ตบุ๊กที่ต้องใช้ HDD และเอ็กเทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ หรือแม้แต่กล้องดิจิตอลก็ต้องใช้ ซึ่งก็จะกระทบเป็นลูกโซ่"
"ปีนี้ยังเชื่อว่าอุตฯไอทีจะโตได้ 10% หรืออ่อนลงนิดหน่อย เพราะโชคดีที่ 3 เดือนแรกไปได้ด้วยดี จากเดิมที่คาดจะโต 12% กว่า ก็คงจะเหลือโต 8-10% เพราะงานคอมมาร์ตก็เลื่อน" นายสมชัยกล่าว