หุ้น KBANK ราคาขยับขึ้น 0.82% มาอยู่ที่ 123 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 385.16 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.42 น. โดยเปิดตลาดที่ 121 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 124 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 120.50 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้นธนาคารกสิกรไทย(KBNAK) โดยให้เป็นหนึ่งในหุ้น Top Pick ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากมี NIM ที่แข็งแกร่ง, รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตสูงมากเมื่อเทียบกับกลุ่ม ให้ราคาพื้นฐาน 155 บาท อิงกับ P/BV เฉลี่ยปี 54-55 ที่ 2.2 เท่า
ทั้งนี้ ได้ปรับลดสมมติฐานการเติบโตของสินเชื่อปี 55 ลงเป็น 8% KBANK คาดการณ์ว่าน้ำท่วมจะกระทบกับสินเชื่อ 7-9% ของสินเชื่อทั้งหมด และทำให้ NPL ปรับขึ้นเล็กน้อย คือ ประมาณ 0.5% ของสินเชื่อรวม และธนาคารจะตั้งสำรองค่าเผื่อฯมากขึ้นใน 4Q54 เราปรับลดคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อปี 54 เป็น 14% จากเดิม 15%
สำหรับปี 55 ธนาคารตั้งเป้าหมายการขยายตัวของสินเชื่อไว้ที่ 9-11% นำโดยสินเชื่อเพื่อการลงทุนระยะยาว และ CAPU เพิ่มขึ้น แต่ปรับลดคาดการณ์สินเชื่อปี 55 ลงเป็น 8% จากเดิม 9% เพื่อสะท้อนเศรษฐกิจที่ซบเซาและผลกระทบจากน้ำท่วม ทั้งนี้สินเชื่อที่ขยายตัวดีในปี 55 จะเป็นสินเชื่อเพื่อการลงทุนของภาครัฐและเอกชน มากกว่าสินเชื่อเพื่อส่งออก แต่อุปสงค์ในประเทศที่เพิ่มขึ้นไม่สามารถชดเชยกับการเติบโตของภาคส่งออกที่ลดลงได้
กำไรสุทธิปี 55 ยังขยายตัวน่าประทับใจ 33% แม้ว่าจะปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของสินเชื่อลง, ให้ NIM ลดลง 0.12% และตั้งสำรองค่าเผื่อฯ เพิ่มเป็น 7.8 พันล้านบาทรองรับ NPL ที่จะเพิ่มขึ้น แต่รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตแข็งแกร่งมาก 16% รวมทั้งอัตราภาษีจ่ายลดลงเป็น 23% ตามมาตรการของของรัฐบาล คุณภาพของสินทรัพย์ KBANK ยังดีมาก โดยมี NPL Ratio ต่ำสุดในอุตสาหกรรมที่ 2.25% และมีสำรองค่าเผื่อฯส่วนเกินจากขั้นต่ำที่ธปท.กำหนด 13 พันล้านบาท รวมทั้งมีสำรองค่าเผื่อฯสะสมต่อ NPL (NPL Coverage Ratio) สูงเท่ากับ 128% ในสิ้น 3Q54