SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 965.80 จุด เพิ่มขึ้น 9.21 จุด(+0.96%)มูลค่าการซื้อขาย 27,555.35 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวผันผวนสลับบวก-ลบ โดยช่วงบ่ายดีดตัวบวกแรงตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่คาดหวังแก้ไขปัญหาหนี้ยุโรปจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ทำให้มีแรงซื้อกลุ่มแบงก์-พลังงานเข้ามาหนุนตลาด ติดตามสถานการณ์ต่างประเทศชี้ชะตาพรุ่งนี้คาดตลาดฯคงแกว่งไซด์เวย์ พร้อมให้แนวรับ 940 จุด ส่วนแนวต้าน 970 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 965.80 จุด เพิ่มขึ้น 9.21 จุด(+0.96%)มูลค่าการซื้อขาย 27,555.35 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวสลับบวก-ลบ ก่อนจะดีดตัวขึ้นมามากในช่วงบ่าย โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ระดับ 968.86 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 948.24 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 297 หลักทรัพย์ ลดลง 150 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 145 หลักทรัพย์
นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบลบสลับบวก โดยเฉพาะในช่วงเปิดตลาดในภาคบ่ายเกิดจากแรงซื้อทางเทคนิคจากเมื่อวานที่ตลาดหุ้นปรับลดลง ประกอบกับความคาดหวังในการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซจะผ่านพ้นไปได้ในการโหวตวันศุกร์(4 พ.ย.)นี้ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากตลาดสหรัฐฯจะปิดทำการในคืนนี้เนื่องในวันชาติส่งผลให้ตลาดดีดกลับมาในแดนบวก
นอกจากนี้ ยังได้รับแรงซื้อในกลุ่มธนาคารพาณิชย์และพลังงาน โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารปรับขึ้นมาก หลังจากคาดหวังว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะมีมาตราการออกมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
อย่างไรก็ตาม มองว่าการดีดกลับมาบวกของตลาดหุ้นไทยวันนี้ทำให้ต้องระวังในวันพรุ่งนี้ เพราะปัจจัยต่างประเทศยังไม่ชัดเจนทั้งการโหวตในการแก้ปัญหาหนี้ยุโรป การกำหนดมทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ และการประชุม G-20 ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ส่วนปัญหาน้ำท่วมกทม.ก็เป็นประเด็นที่ต้องติดตามเช่นกัน
"ข่าวน้ำท่วมตอนนี้เริ่มขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ คงต้องติดตามว่าจะเข้ามาในบริเวณในตัวเมืองภายในหรือไม่ ตอนนี้ตลาดให้ความสำคัญ แต่ยังรองจากปัจจัยต่างประเทศ ผมมองว่าหากปัจจัยต่างประเทศจบในสัปดาห์นี้ เรื่องต่อไปที่จะกำหนดคงเรื่องน้ำท่วม"นายเกียรติก้อง กล่าว
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(3 พ.ย.)นักวิเคราะห์ฯ มองว่าตลาดหุ้นไทยคงไซย์เวย์ในด้านลบ พร้อมให้แนวรับไว้ 940 จุด ส่วนแนวต้าน 970 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 3,847.65 ล้านบาท ปิดที่ 65.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,748.44 ล้านบาท ปิดที่ 298.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,883.91 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,313.97 ล้านบาท ปิดที่ 14.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,277.72 ล้านบาท ปิดที่ 602.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง