นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะแกว่งตัวผันผวน แม้เมื่อคืนนี้ดาวโจนส์จะปรับตัวขึ้นแรงกว่า 100 จุด ตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดี รวมทั้งการที่เฟดออกมาระบุว่าพร้อมใช้เครื่องมือทุกอย่างเพื่อทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว แต่อย่างไรก็ตามดาวโจนส์ฟิวเจอร์ในช่วงเช้านี้กลับปรับตัวลง มองว่าคงต้องรอดูการแถลงผลประชุมเฟดอย่างเป็นทางการที่จะออกมาในคืนนี้
ทั้งนี้นักลงทุนยังมีความกังวลเรื่องการแก้ปัญหาหนี้กรีซ หลังกรีซต้องมีการทำประชามติว่าจะยอมรับข้อตกลงการให้ความช่วยเหลือหรือไม่ ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเช้านี้แกว่งตัวในแดนบวกลบสลับกันไป
พร้อมให้กรอบการเคลื่อนไหวที่ 950-980 จุด
ด้านบทวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้จะมีความผันผวนสูงภายหลังการดีดกลับของดัชนีเกือบ 10 จุดวานนี้ และการฟื้นตัวของตลาดต่างประเทศ นำโดยดัชนีดาวโจนส์และตลาดหุ้นยุโรปหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เผยจะจับตาสถานการณ์ในยุโรปอย่างใกล้ชิดและเปิดโอกาสสำหรับความเป็นไปได้ที่เฟดจะเพิ่มการถือครองตราสารหนี้จำนอง หากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐย่ำแย่ลง ซึ่งนั่นจะช่วยคลายความวิตกของนักลงทุนได้บางส่วน
แต่สถานการณ์น้ำท่วมในประเทศจะเป็นความเสี่ยงทางลง โดยเฉพาะล่าสุดที่กำลังใกล้สู่นิคมฯ ทางฝั่งตะวันออก อาทิ บางชัน-ลาดกระบัง ตลอดจนการกลับมาขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติเป็นวันแรกในรอบ 8 วันทำการที่ผ่านมากว่า 2.25 พันล้านบาท จะร่วมกันกดดันตลาดให้ยังอยู่ในกรอบทางลง แม้อาจมีดีดตัวสลับจากความผันผวนในระหว่างทางไปบ้างก็ตาม
พร้อมให้แนวรับ 960 , 950 จุด แนวต้าน 975 , 985 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(2 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,836.04 จุด เพิ่มขึ้น 178.08 จุด(+1.53%)ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,237.90 จุด เพิ่มขึ้น 19.62 จุด(+1.61%)ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,639.98 จุด เพิ่มขึ้น 33.02 จุด(+1.27%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,249.20 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 92.51 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.35%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์เช้านี้เปิดที่ 11.44 เหรียญฯ/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้(2 พ.ย.)ปิดที่ 8.78 เหรียญฯ/บาร์เรล
- "ธีระชัย" สั่ง คปภ.บุกญี่ปุ่น-อังกฤษ กล่อมรีอินชัวเรอร์รับประกันภัยนิคมอุตสาหกรรม หวังสกัดนักลงทุนไม่ให้ย้ายฐานผลิต ยอมรับเหตุน้ำท่วมใหญ่ทำประกันภัยขยาดไม่กล้ารับ ค้านแนวคิด กิตติรัตน์ ให้รัฐบาลรับประกันเอง เผย 7 นิคมฯ จมน้ำยื่นเคลมกว่า 2 แสนล้าน บริษัทประกันญี่ปุ่นอ่วมรับมากสุด 60% นายกสมาคมประกันปูด "คลัง-คปภ.บิน"เจรจาที่สิงคโปร์มาแล้วแต่ไร้ผล ประกันภัยต่อยืนกรานต้องมีแผนป้องกันน้ำท่วมที่ชัดเจน เตือนธุรกิจในประเทศอาจต้องจ่ายเบี้ยเพิ่ม เงื่อนไขโหดจ่ายค่าเสียหายแค่ครึ่งเดียว
- 7 นิคมฯ ถูกน้ำท่วมเสนอรัฐบาล ขอซอฟท์โลน 6 พันล้านบาทสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมรอบนิคมฯ "กิตติรัตน์" หนุนเต็มที่สั่งทุกนิคมฯ ทำแผนช่วยเหลือ หวังสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน คลังพร้อมเว้นภาษีเครื่องจักรนอกอาเซียน ปลัดอุตสาหกรรมยันนิคมฯ บางชัน ยังปลอดภัย ด้าน "ไจกา" แนะรัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อย่าทำแค่ปัญหาเฉพาะหน้า ต้องรองรับปัญหาในอนาคต 100-200 ปี พร้อมเสนอปล่อยกู้ระยะยาว ดอกเบี้ยต่ำ ไม่จำกัดเพดานเงินกู้
- กระทรวงอุตฯ เปิดเผยความเสียหายโรงงานนอกนิคม 1.9 หมื่นแห่งรับผลกระทบน้ำท่วม มูลค่ากว่า 2.4 แสนล้านบาท ทุ่มงบ 500 ล้านบาทช่วยเหลือ พร้อมตั้งทีมฟื้นฟูเร่งด่วน ด้าน สสว.ประเมินทั้งประเทศเอสเอ็มอีเสียหาย 2.4 แสนราย กระทบแรงงาน 6.7 แสนคน
- ผู้ส่งออกโวยพาณิชย์ไร้แผนอุ้มผู้ประสบภัยน้ำท่วม หวั่นเชื่องช้ากระทบหนักส่งออกปี'55 ต่ำสุด โตไม่ถึง 10% เมินตอบแบบสอบถาม หวังพึ่ง ส.อ.ท.-หอค้าแทน
- “พิชัย" โชว์แผนฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลดทั้งระบบของกระทรวงพลังงาน เริ่มจากช่วยสูบน้ำให้นิคมอุตสาหกรรม จัดมาตรการไฟฟ้าฟรี 50 หน่วย ไม่ขึ้นค่าเอฟทีปี 55 พร้อมให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงาน ปตท.—การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ร่วมช่วยภาคครัวเรือนและชุมชน ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจเอสเอ็มอีและภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่