นางนิรมล รุจิราโสภณ กรรมการ บมจ.ส.ขอนแก่นฟู้ดส์(SORKON)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ไตรมาส 3/54 คาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทจะสูงกว่าไตรมาส 2/54 เนื่องจากยอดขายเติบโตต่อเนื่อง และไตรมาส 4/54 น่าจะมีกำไรเติบโตเพิ่มขึ้นอีกตามยอดขายของบริษัทที่เพิ่มสูงกว่าช่วงปกติราว 30-40% รับผลดีจากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ทำให้มีการสั่งซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้นทั้งลูกค้าทั่วไปที่ซื้อเพื่อเก็บตุนอาหาร และลูกค้าที่ซื้อเพื่อนำไปบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงได้รับออเดอร์ทดแทนโรงงานอื่นที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วมด้วย
ส่วนร้านอาหาร"แซบเอ็กซเพรส"ยังมียอดขายที่ดี แต่อาจจะมีปัญหาที่ราคาวัตถุดิบอื่น ๆ เช่น ผัก มีราคาที่สูงขึ้นบ้าง จากผลกระทบจากน้ำท่วม
ดังนั้น ในปี 54 คาดว่ารายได้รวมของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,800 ล้านบาทจากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 1,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 53 ที่มีรายได้ 1,500 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิเติบโตตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งรับผลดีจากยอดขายเพิ่มขึ้นในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม
"สินค้าของเราที่ส่วนใหญ่เป็นอาหารแห้ง ทั้งหมูหยอง กุนเชียง น้ำพริก ตอนนี้มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่าปกติ 30-40% ทำให้ผลิตสินค้าไม่ทันขาย ตอนนี้กำลังการผลิตทำเต็มที่ และต้องให้พนักงานมีการทำโอทีเพื่อผลิตสินค้าให้ทันส่ง...ปกติช่วง ต.ค.ยอดขายจะดี แต่พอปลาย พ.ย.-ต้น ธ.ค.จะแผ่ว แล้วจะมาดีอีกครั้งช่วงปลาย ธ.ค. แต่ปีนี้มียอดขายดีอย่างน่าตกใจตั้งแต่ไตรมาส 3" นางนิรมล กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมโรงงานที่ จ.สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม แม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่เสี่ยง แต่บริษัทได้มีการก่อกำแพงล้อมรอบโรงงานเพื่อเป็นการป้องกัน จึงหวังว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ
สำหรับการร่วมลงทุนกับพันธมิตรในศรีลังกาเพื่อตั้งโรงงานผลิตอาหารแช่แข็ง ขณะนี้อยู่ในช่วงของการศึกษารูปแบบและรสชาดอาหาร โดยตลาดในอินเดียและศรีลังกามีแนวโน้มเติบโตสูงตามภาวะเศรษฐกิจและประชากร ซึ่งจะเน้นอาหารรสจัดคล้ายอาหารไทย แต่จะเน้นไปทางเครื่องเทศมากกว่า คาดว่าจะเริ่มส่งสินค้าไปทดลองตลาดได้ในช่วงต้นปี 55
และในวันที่ 10-21 พ.ย.54 บริษัทจะไปสำรวจตลาดแถบยุโรปที่กรุงวอซอร์ ประเทศโปแลนด์ เพื่อเตรียมขยายตลาดอาหารแช่แข็งเช่นกัน โดยมองว่าอาหารไทยเป็นที่รู้จักและต่างชาติให้ความสนใจ เพียงแต่ยังไม่มีนักลงทุนเข้าไปบุกเบิกตลาด ส่วนจะเป็นการลงทุนอย่างไรคงต้องมีการศึกษาให้ชัดเจนก่อน
นางนิรมล ยังกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นในช่วงปลายเดือน ต.ค. หลัง บริษัท เมโทรอะโกรอินดัสทรี จำกัด ได้มีการขายหุ้นทั้งหมด12.48% ของ SORKON ให้แก่นางสาวพัฒนา ขันทะชานั้น ขณะนี้ตนเองได้เจรจาขอซื้อหุ้นจากนางสาวพัฒนากลับคืนมาทั้งหมดแล้ว โดยเป็นการเข้าซื้อในตลาดราคาเฉลี่ยที่ 60-65 บาท/หุ้น
"พี่ไม่รู้จักทางเขา (นางสาวพัฒนา) แต่เจรจาขอซื้อ เขาก็ยอมขาย เพราะได้กำไรนิดหน่อยเขาก็ขาย...ตอนนี้เราก็จะมีการเพิ่มทุน และจะมีการขยายงานอีกมาก และจะมีอะไรต่อมาเรื่อยๆที่ยังบอกตอนนี้ไม่ได้...ตอนนี้พี่ก็ขอเก็บหุ้นไว้ก่อน แล้วก็จะมีกิจกรรมอื่นๆตามมา เราก็อยากให้หุ้นของเราเหมือนสินค้าให้มีการซื้อขายกันมากขึ้น"นางนิรมล กล่าว
อนึ่ง ก่อนหน้านี้บริษัทประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียน 161,700,000 บาท เป็น 242,550,000 บาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 2 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 10 บาท