สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 107,989 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 100,076 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 93% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 7,154 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 3 ปี 6 ปี และ 8 ปี (LB145B LB17OA และ LB193A) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 4,391 ล้านบาท หรือคิดเป็น 61% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 528 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTTC153A) หุ้นกู้บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด (MPSC155B) และหุ้นกู้ของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (GLOW19OA) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 324 ล้านบาท หรือคิดเป็น 61% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 41,829 ล้านบาท กลุ่มนิติบุคคลในประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 8,829 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะขายสุทธิ 4,074 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หรือเฉลี่ยแล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ถึง 4 basis point โดยในช่วงนี้การซื้อขายในตลาดตราสารหนี้ค่อนข้างเงียบ ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบตลาด อัตราผลตอบแทนปรับตัวเพิ่มขึ้นตามอุปสงค์และอุปทานของตลาดเป็นหลัก สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้เน้นขายตราสารระยะสั้นอายุไม่เกิน 1 ปี
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.39% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดที่ 3.23% ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.02% จากวันก่อนหน้า