ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) ขานรับธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน และข่าวที่ว่านายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีของกรีซได้ตัดสินใจชะลอแผนการทำประชามติเกี่ยวกับมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซ
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.1% ปิดที่ 242.2 จุด ดัชนี FTSEurofirst 300 ของหุ้นกลุ่มบลูชิพทั่วยุโรปพุ่งขึ้น 1.9% ปิดที่ 990.11 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีพุ่งขึ้น 167.55 จุด หรือ 2.81% ปิดที่ 6,133.18 หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,832.03-6,193.34 จุด ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวขึ้น 84.88 จุด หรือ 2.73% ปิดที่ 3,195.47 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,029.44-3,221.94 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนพุ่งขึ้น 61.54 จุด หรือ 1.12% ปิดที่ 5,545.64 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,402.63-5,564.54 จุด
ตลาดหุ้นทั่วภูมิภาคยุโรปปิดพุ่งขึ้นขานรับข่าวที่ว่า นายกรัฐมนตรีปาปันเดรอูของกรีซได้ตัดสินใจชะลอแผนการทำประชามติ เนื่องจากมีความขัดแย้งกันอย่างมากในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงว่า การทำประชามติดังกล่าวอาจจะส่งผลประทบที่รุนแรงต่อข้อตกลงของผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ในเรื่องการแก้ปัญหาหนี้สินของกรีซ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางยุโรปตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 1.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2552 โดยนายมาริโอ ดราจี ประธานธนาคารกลางยุโรปกล่าวว่า การตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้เป็นเพราะธนาคารกลางยุโรปให้น้ำหนักกับปัจจัยด้านวิกฤตหนี้ในยูโรโซน มากกว่าปัจจัยด้านเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น
หุ้นกลุ่มธนาคารของกรีซพุ่งขึ้นขานรับข่าวการพักข้อเสนอการทำประชามติ โดยหุ้นเนชันแนล แบงก์ ออฟ กรีซ พุ่งขึ้น 11% หุ้นอัลฟา แบงก์ เอสเอ ทะยานขึ้น 15% หุ้นธนาคารพิเรอุส แบงก์ เอสเอ ดีดตัวขึ้น 10%
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารของประเทศอื่นๆในยุโรปนั้น หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ของฝรั่งเศสพุ่งขึ้น 7.5% หุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ เอสเอของเยอรมนี ดีดตัวขึ้น 5.5%
หุ้นสวิส รี ซึ่งเป็นบริษัทรับประกันต่อของสวิตเซอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 6.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 1.35 พันล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้เพียง 539 ล้านดอลลาร์
หุ้นไอเอ็นจี กรุ๊ป บริษัทการเงินรายใหญ่ของยุโรป พุ่งขึ้น 9.4% หลังจากบริษัทวางแผนลดจำนวนพนักงานลง 11% และยังได้เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่งเกินคาด