PAO จะขายหุ้นเพิ่มทุนให้ PP 1.2 พันล้านหุ้น ราคาไม่ต่ำกว่า 0.38บ./หุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 4, 2011 09:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.อั่งเปา แอสเสท (PAO) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้กับบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวนไม่เกิน 1,200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1.00 บาท และให้เสนอขายในราคาไม่ต่ำกว่า 0.38 บาท (มูลค่าตามบัญชี ณ วันที่ 30 มิ.ย.54) โดยให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาและอนุมัติต่อไป

และมีมีมติอนุมัติการเข้าทำรายการซื้อที่ดิน 10-1-91.60 ไร่ หรือ 4,191.60 ตารางวา ราคา 280.00 ล้านบาท จากบริษัท เค เอ็น เรียลเอสเตท จำกัด (เคเอ็น) เพื่อพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม โดยที่ดินดังกล่าวตั้งอยู่ในทำเลที่ดี เป็นพื้นที่ที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยสูง รวมทั้งผลตอบแทนที่ฝ่ายจัดการได้วิเคราะห์อยู่ในระดับที่ดี ในส่วนราคาซื้อที่ดินดังกล่าวต่ำกว่าราคาที่ประเมินโดยผู้ประเมินอิสระ 2 ราย

การซื้อที่ดินจากเคเอ็นเป็นการเข้าทำรายการกับบุคคลที่เกี่ยวโยง เนื่องจากนางศิริญา เทพเจริญ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ถือหุ้นร้อยละ 21.77 (ข้อมูล 20 ก.ย. 54) และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในเคเอ็น โดยถือหุ้นร้อยละ 90 และเป็นกรรมการเคเอ็น และนายกฤษณะ เทพเจริญ น้องชายนายวิษณุ เทพเจริญ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ถือหุ้นร้อยละ 23.73 (ข้อมูล 20 ก.ย. 54 ) และเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ถือหุ้นในเคเอ็นร้อยละ 4

อีกทั้งเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2554 และ 23 กันยายน 2554 บริษัทรับความช่วยเหลือทางการเงินจากบริษัท ภูศิริ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (ภูศิริ) โดยดอกเบี้ยที่ต้องชำระให้กับภูศิริทั้งหมดเท่ากับ 6.04 ล้านบาท ขนาดของรายการเท่ากับร้อยละ 0.42 ของมูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2554 ซึ่งนายวงศกร เทพเจริญ ถือหุ้นของภูศิริ ร้อยละ 28เป็นบุตรชาย นายวิษณุ เทพเจริญ , นายจิราวัฒน์ พุทธิไตรสิน กรรมการผู้มีอำนาจ และผู้ถือหุ้นของภูศิริ ร้อยละ 20 น้องชายนางศิริญา เทพเจริญ

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติการเข้าทำรายการซื้อที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง โครงการบ้านกฤษณา สุวินทวงศ์ จำนวน 687 แปลง (แปลงขาย 677 แปลง และแปลงสาธารณูปโภค 10 แปลง) คิดเป็นพื้นที่รวม 96-1-55.60 ไร่ หรือ 38,555.60 ตารางวา ในราคา 240.00 ล้านบาท จาก บจ.วีรวรรณ แอสเซท

บริษัทจะเข้าซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างส่วนที่เหลือทั้งหมด เพื่อพัฒนาโครงการต่อ เพื่อสร้างทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว และอาคารพาณิชย์ เพื่อขายให้แก่ลูกค้าทั่วไป รวมทั้งเข้าไปสวมสิทธิการจัดสรรเพื่อดำเนินการจัดให้มีสาธารณูปโภคต่าง ๆ จนแล้วเสร็จ โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ในทำเลที่ดี เป็นพื้นที่ที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยสูง รวมทั้งผลตอบแทนที่ฝ่ายจัดการได้วิเคราะห์อยู่ในระดับที่ดี ในส่วนราคาซื้อโครงการดังกล่าวต่ำกว่าราคาที่ประเมินโดยผู้ประเมินอิสระ 2 ราย

และมีมติรับทราบผลการดำเนินการซื้อห้องชุดจำนวน 4 ยูนิต ในอาคารแบงคอค เมดิเพล็กซ์ จากบริษัท ศาศิริแกรนด์ จำกัด (มหาชน) จากการเข้าทำสัญญาซื้อห้องชุดเพิ่มเติมตามที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2554 เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2554 และต่อมาคณะกรรมการบริษัทได้มีมติขยายระยะเวลารับโอนกรรมการสิทธิ์ออกไปอีก 60 วัน นับจากวันครบกำหนดรับโอนกรรมสิทธิ์ เนื่องจากเงื่อนไขบังคับก่อนยังไม่สำเร็จและเพื่อประโยชน์ของบริษัทในการขจัดความขัดแย้ง โดยจะนำเสนอขอสัตยาบันในการขยายระยะเวลาต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในครั้งต่อไปนั้น แต่เนื่องจากบริษัทณุศาศิริ แกรนด์ จำกัด (มหาชน) ได้จำหน่ายห้องชุดดังกล่าวทั้ง 4 ยูนิตให้แก่บุคคลอื่นทั้งหมดแล้วก่อนการขยายระยะเวลา จึงไม่จำเป็นต้องขอสัตยาบันจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขยายระยะเวลาดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ