สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 79,186 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 72,013 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 91% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 5,643 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 4 ปี 6 ปี และ 8 ปี (LB155A LB17OA และ LB193A) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 3,451 ล้านบาท หรือคิดเป็น 61% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 530 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) (MBK163A) หุ้นกู้อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL16OB) และหุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY123A) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 451 ล้านบาท หรือคิดเป็น 85% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 39,989 ล้านบาท กลุ่มนิติบุคคลในประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 7,127 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 370 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเล็กน้อย หรือเฉลี่ยแล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ถึง 2 basis point โดยในช่วงนี้การซื้อขายในตลาดตราสารหนี้ยังคงค่อนข้างเงียบ สถานการณ์น้ำท่วมยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างความกังวลในการลงทุน อัตราผลตอบแทนปรับตัวเพิ่มขึ้นตามอุปสงค์และอุปทานของตลาดเป็นหลัก
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.39% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดคงที่ที่ 3.23%