TUF เชื่อรายได้ปี54 โตไม่ต่ำกว่า 40%, รง.สมุทรสาครเตรียมพร้อมรับมือน้ำ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 7, 2011 14:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF) มั่นใจรายได้ปีนี้จะโตไม่ต่ำกว่า 40% จากปีก่อน พร้อมตั้งเป้าหมายใหม่ที่ 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 58

ขณะที่สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น และขยายวงกว้างไปในหลายพื้นที่ขณะนี้ บริษัทมีการติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด แม้ว่าขณะนี้บริษัทจะยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่จากการที่โรงงานของเราตั้งอยู่ในอ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นทางผ่านของน้ำเพื่อไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน บริษัทจึงต้องมีการเตรียมพร้อมรับกับสถานการณ์ตลอดเวลา โดยมีการตั้งแนวกระสอบทรายรอบโรงงาน และเตรียมพร้อมสำหรับเครื่องสูบน้ำมีการเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง รวมถึงการทำแนวป้องกันเครื่องจักรภายในโรงงาน

ส่วนจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในยุโรป ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่า จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเอ็มดับบลิว แบรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายธีรพงศ์ชี้แจงว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในยุโรปไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท ซึ่งจากผลการดำเนินงานของเอ็มดับบลิว แบรนด์ที่ผ่านมาในหลายไตรมาสก็สามารถพิสูจน์ให้เห็นแล้ว สินค้าของบริษัทเป็นสินค้าประเภทอาหารซึ่งจำเป็นต่อการบริโภค ประกอบกับสินค้าของบริษัทก็เป็นสินค้าที่ราคาไม่แพง ดังนั้นจึงไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนที่ผ่านมา ทำกำไรสุทธิ 3,551 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,21 ล้านบาท และมียอดขาย 2,395 เหรียญสหรัฐ เติบโตขึ้น 51% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มียอดขายเท่ากับ 1,581 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนยอดขายในรูปเงินบาทนั้นก็มีการเติบโตที่ดีเช่นเดียวกัน โดยมียอดขายเท่ากับ 72,671ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนของปีที่แล้วที่มียอดขาย 50,859 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 3/54 บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิได้เท่ากับ 1,561 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 817 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายในไตรมาสนี้ก็มีเติบโตเช่นเดียวกัน โดยยอดขายในรูปเงินเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 50% จาก 555 ล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว มาเท่ากับ 831 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ ส่วนยอดขายในรูปเงินบาทเท่ากับ 25,105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว ที่มียอดขายเท่ากับ 17,438 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัททำกำไรสุทธิไปแล้ว 3,551 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 2,521 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายช่วง 9 เดือนในรูปของเงินเหรียญสหรัฐเท่ากับ 2,395 ล้าน
"จากผลการดำเนินงานไตรมาส 3 จะเห็นว่า เป็นอีกครั้งที่บริษัทได้สร้างบันทึกหน้าใหม่ของความสามารถในการทำกำไรและยอดขาย และจากผลงานดังกล่าว ยังสามารถสะท้อนถึงนโยบายการควบรวมกิจการกับเอ็มดับบลิว แบรนด์เป็นสิ่งที่เหมาะสม สำหรับสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต"นายธีรพงศ์ กล่าว

และเมื่อพิจารณากำไรสุทธิ จะเห็นว่า มีการเติบโตที่โดดเด่นติดต่อกันมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 โดยเฉพาะในส่วนของ Net Margin ที่ไตรมาสนี้ ทำได้ถึง 6.5% ถือว่าดีมากกว่าในหลายปีที่ผ่านมา แสดงถึง บริษัทมีความสามารถในการดำเนินธุรกิจที่ดี สามารถรักษาการทำกำไรขั้นต้นได้เป็นอย่างดี ประกอบกับในไตรมาสนี้ต้นทุนทางด้านดอกเบี้ยจ่ายและภาษีต่ำกว่าไตรมาสที่ผ่านมา จึงส่งผลดีต่อ Net Margin

นอกจากนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยในต่างประเทศ เช่น บริษัทไทร-ยูเนี่ยน โฟรเซ่น ฟู้ดส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา และบริษัท เอ็มดับบลิว แบรนด์ ในยุโรป ก็เติบโตเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ ยอดขายในทุกผลิตภัณฑ์ก็มีการเติบโตดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะปลาซาร์ดีนและแมคเคอเรล เติบโตถึง 99% ปลาทูน่า เติบโต 84% และปลาแซลมอน โตถึง 79% ส่วนหนึ่งเป็นผลบวกมาจากการควบรวมกิจการกับเอ็มดับบลิว แบรนด์ ขณะที่ผลิตภัณฑ์กุ้งมีการเติบโตอย่างโดดเด่นเช่นเดียวกัน เป็นการเติบโตจากการขยายธุรกิจด้วยตนเอง (Organic Growth) โดยโตขึ้น 34% สำหรับการสร้างผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่องนี้ ส่งผลให้มาร์จิ้นในไตรมาสนี้เท่ากับ 17.3% ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

สำหรับสัดส่วนยอดขายตามผลิตภัณฑ์ในไตรมาส 3 ปี 54 ผลิตภัณฑ์ปลาทูน่ามียอดขายเป็นอันดับหนึ่งโดยคิดเป็นสัดส่วน 45% รองลงมาได้แก่ กุ้งแช่แข็ง 21% ผลิตภัณฑ์ในประเทศ 8% อาหารแมวบรรจุกระป๋อง 6% อาหารกุ้ง 6% ปลาแซลมอนแช่แข็ง 5%อาหารทะเลบรรจุกระป๋อง 4% ปลาซาร์ดีนและแมคเคอเรลบรรจุกระป๋อง 4% และปลาหมึกแช่แข็ง 1% ส่วนตลาดส่งออกหลักอันดับหนึ่งคือ สหรัฐอเมริกา 36% รองลงมาคือ สหภาพยุโรป 30% ญี่ปุ่น 11% ขายในประเทศ 11% เอเชีย 3% อัฟริกา 3% ออสเตรเลีย 2% ตะวันออกกลาง 2% อเมริกาใต้ 1% และแคนาดา 1%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ