นายทองคำ มานะศิลปพันธ์ รองประธานกรรมการ บมจ.ไซแมท เทคโนโลยี(SIMAT)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/54 คาดว่าจะพลิกมีกำไรได้ หลังจากไตรมาส 2/54 ขาดทุน 8.35 ล้านบาทจากการที่บริษัทตั้งสำรองหนี้ประมาณ 20 ล้านบาทของบริษัทย่อยในมาเลเซีย
และไตรมาส 4/54 น่าจะมีผลกำไรเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าลูกหนี้ค้างชำระของบริษัทย่อยในมาเลเซียจะชำระหนี้คืน ซึ่งจะทำให้วงเงินตั้งสำรองหนี้บันทึกกลับมาเป็นกำไรได้ ดังนั้น จึงเชื่อว่าจะทำให้ทั้งปี 54 บริษัทจะมีกำไรสุทธิเติบโตเป็น 10% ตามเป้าหมาย แต่หากยังไม่มีการบันทึกกลับเงินที่ตั้งสำรองไว้ คาดว่ากำไรสุทธิจะลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 34.67 ล้านบาท
นายทองคำ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ของประเทศในขณะนี้ว่า โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังยังเปิดดำเนินการตามปกติ แต่ได้มีการเตรียมมาตรการป้องกันน้ำท่วมไว้พร้อมแล้ว โดยทำพนังกั้นน้ำโดยรอบโรงงานสูงประมาณ 1.30 เมตร หวังว่าน่าจะป้องกันน้ำได้ในระดับหนึ่ง ขณะเดียวกันบริษัทเดียวกันได้มีการย้ายอุปกรณ์บางส่วนขึ้นชั้น 2 ของโรงงาน
"ตอนนี้เรายังทำงานตามปกติ เพราะเรายังมีงานที่ต้อง Service ลูกค้า เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ก็โดนน้ำท่วม เครื่องจักรเราไม่ได้ย้าย ถ้าเลี่ยงไม่ได้น้ำท่วมก็ไม่มีปัญหาเครื่องจักรไม่ได้ใช้อุปกรณ์ไฮเทค พอน้ำลดเราก็คลีนเครื่องจักร...การผลิตที่ลาดกระบังมีไม่ถึง 10%ของรายได้รวม เป็นงานพิมพ์กระดาษไฮเอนด์ ส่วนใหญ่งานเรารับวางระบบโครงข่ายมากกว่า"นายทองคำ กล่าว
สำหรับการรับงานโครงการวางระบบโครงข่ายแบบเส้นใยแก้วนำแสงพร้อมอุปกรณ์ของ บมจ.กสท.โทรคมนาคม 2 แห่ง รวมมูลค่า 850 ล้านบาท อายุสัญญา 5 ปีนั้น งานวางโครงข่ายที่ จ.นครราชสีมา คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ และจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 55 ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.พ.55 ซึ่งล่าช้ากว่าเดิม 1-2 เดือน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทยังไม่ได้เสนอตัวเข้าประมูลรับงานใดๆ เพิ่ม เนื่องจากรองานโครงการของ กสท.ให้แล้วเสร็จก่อน