ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบถ้วนหน้าเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในอิตาลี หลังจากมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีซิลวิโอ เบอร์ลุสโคนี อาจจะไม่สามารถรั้งตำแหน่งผู้นำเอาไวได้ก่อนที่จะมีการลงมติงบประมาณ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ทางการเมืองของกรีซ หลังจากมีข่าวเรื่องการเตรียมจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.6% ปิดที่ 238.44 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3103.60 จุด ลบ 19.95 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 5928.68 ลบ 37.48 จุด ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดลอนดอนที่ 5510.82 ลบ 16.34 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในอิตาลี หลังจากมีรายงานว่า นายเบอร์ลุสโคนีอาจจะไม่สามารถรั้งเสียงข้างมากในสภาเอาไว้ได้ ก่อนที่รัฐสภาอิตาลีจะลงคะแนนเสียงเรื่องงบประมาณในวันอังคาร นอกจากนี้ พรรคการเมืองหลายพรรคของอิตาลีพยายามกดดันให้นายเบอร์ลุสโคนีลาออกจากตำแหน่ง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลอิตาลีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ทางการเมืองของกรีซ หลังจากนายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีกรีซประกาศลาออกเมื่อวานนี้ เพื่อปูทางสู่การจัดตั้งรัฐบาลผสม โดยพรรคของนายปาปันเดรอูและแกนนำพรรคฝ่ายค้านเริ่มประชุมหารือกันเพื่อสรุปสัดส่วนในรัฐบาลชุดใหม่ รวมถึงเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นบริษัทยุโรป เนื่องจากความกังวลที่ว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรปจะยิ่งส่งผลให้วิกฤตหนี้ทวีความรุนแรงและทำให้เศรษฐกิจอ่อนแอลงอีก
หุ้นคาร์ฟูร์ ร่วงลง 2.6% หลังจากซิตี้กรุ๊ปปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นคาร์ฟูร์ลงมาอยู่ที่ระดับ "sell" จากระดับ "neutral" ขณะที่หุ้นเรนโตคิล อินนิเชียล ดิ่งลง 3.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยแผนการประหยัดต้นทุนและยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม หุ้นเบเยอร์ เอจี ดีดตัวขึ้น 2.5% หลังจากสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐอนุญาตให้เบอเยอร์จำหน่ายยา Xarelto ที่ใช้ลดอาการผิดปกติของหลอดเลือดในหัวใจ
ส่วนหุ้นธนาคารของกรีซปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นเนชันแนล แบงก์ ออฟ กรีซ ดีดตัวขึ้น 5.4% หุ้นพิเรอุส แบงก์ พุ่งขึ้น 4.6% หุ้นอัลฟา แบงก์ เอสเอ พุ่งขึ้น 6.9%