นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ทวีความรุนแรงขึ้นและขยายตัวจากกรุงเทพฯ ตอนเหนือถึงบริเวณกรุงเทพฯ ชั้นใน ส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ทั้ง 3 โครงการ ที่กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ (MJLF) มีการลงทุน ประกอบด้วย เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต ซึ่งได้ปิดบริการชั่วคราวไปตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2554 รวมถึงเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธินโยธิน และซูซูกิ อเวนิว รัชโยธิน ซึ่งหยุดดำเนินการเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยในเบื้องต้น บลจ.กสิกรไทยประเมินว่า อาจส่งผลกระทบระยะสั้นต่อรายได้จากค่าเช่าตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ไปจนกว่าจะเปิดดำเนินการได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม ทุกโครงการมีประกันภัยที่พร้อมให้การชดเชยในกรณีธุรกิจหยุดชะงักจากการที่ต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว อีกทั้งความเสียหายจากน้ำท่วมดังกล่าวไม่ได้กระทบต่อโครงสร้างอาคาร จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูโครงการและพื้นที่เช่าในระยะยาว เชื่อว่าหลังสถานการณ์คลี่คลายน่าจะสามารถกลับมาเปิดบริการได้โดยเร็ว
"สำหรับผลกระทบจากน้ำท่วมต่อเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ทั้ง 3 โครงการของกองทุน เรามีประกันภัยที่ครอบคลุมทั้งเรื่องการขาดรายได้จากธุรกิจที่ต้องหยุดชะงัก และส่วนที่พร้อมชดเชยความเสียหายจากน้ำท่วมอยู่ ซึ่งคงต้องประเมินความเสียหายกันอีกครั้งหนึ่งหลังน้ำลด และเข้าเจรจากับบริษัทประกันภัยในเรื่องสินไหมชดเชย" นายพัชรกล่าว
ส่วนสถานการณ์ในขณะนี้น้ำยังไม่ท่วมเข้าไปถึงด้านในตัวอาคาร เนื่องจากมีการป้องกันด้วยแนวกระสอบทรายรอบๆ โครงการอย่างแน่นหนา และมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอดเวลา
นายพัชร กล่าวว่า ในแง่รายได้ ในเดือนตุลาคมโครงการได้รับค่าเช่าจากร้านค้าในโครงการครบถ้วนแล้ว แต่สำหรับรายได้ในเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปยังต้องรอประเมินสถานการณ์ เนื่องจากอาจมีการขอต่อรองจากผู้เช่าที่ไม่สามารถเปิดบริการได้ในช่วงน้ำท่วม
ส่วนผลกระทบในระยะยาว คาดว่า หากหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย และพบว่าโครงการไม่ได้รับความเสียหายในด้านโครงสร้างอาคารและพื้นที่เช่า ก็น่าส่งผลให้เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์สามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้รวดเร็วโดยไม่ต้องใช้เวลาฟื้นฟูมากนัก ส่วนแนวโน้มรายได้น่าจะกลับมาสู่ภาวะปกติได้ไม่ยาก เนื่องจากอัตราการเช่าของทั้ง 3 โครงการในอดีตที่ผ่านมา ล้วนมีอัตราการเช่าเกือบเต็ม 100%
สำหรับกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ (MJLF) เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลำดับที่ 3 ของ บลจ. กสิกรไทย ที่ผ่านมากองทุนมีการจ่ายปันผลไปแล้วทั้งสิ้น 16 ครั้ง รวม 3.6930 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ยนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนที่ 9.28% ต่อปี