สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 29,663 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 15,297 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 52% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 12,218 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 4 ปี และ 6 ปี (LB155A LB176A และ LB17OA) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 10,568 ล้านบาท หรือคิดเป็น 86% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 861 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY123A) หุ้นกู้บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC144A) และหุ้นกู้อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL21OB) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 403 ล้านบาท หรือคิดเป็น 47% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 6,293 ล้านบาท นักลงทุนกลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตค้าตราสารหนี้ซื้อสุทธิ 332 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 1,719 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวาน หรือเฉลี่ยแล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ถึง 5 basis point ในวันนี้ตลาดตราสารหนี้ค่อนข้างเงียบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงชะลอการซื้อขายเพื่อรอดูสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศที่ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ และการพิจารณากฎหมายงบประมาณของอิตาลี
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.38% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดที่ 3.30% ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.03% จากวันก่อนหน้า