ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาด รวมถึงจำนวนคนว่างงานที่ปรับตัวลดลงในรอบสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของอิตาลีลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 7% และข่าวกรีซแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรองประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 112.85 จุด หรือ 0.96% ปิดที่ 11,893.79 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 10.60 จุด หรือ 0.86% ปิดที่ 1,239.70 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 3.50 จุด หรือ 0.13% ปิดที่ 2,625.15 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับความคืบหน้าในด้านบวกของยุโรป รวมถึงข่าวที่ว่ารัฐบาลอิตาลีสามารถระดมทุนด้วยการประมูลขายพันธบัตรอายุ 12 ปีได้สูงถึง 5 พันล้านยูโรเมื่อวานนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ของอิตาลีปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 7% ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะด้านการคลังของอิตาลี
ตลาดหุ้นนิวยอร์กขานรับข่าวที่ว่า นายลูคัส ปาปาเดมอส อดีตรองประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลของกรีซ แทนนายจอร์จ ปาปันเดรอู โดยแถลงการณ์ของทำเนียบประธานาธิบดีกรีซระบุว่า รัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของนายปาปาเดมอสได้รับการมอบหมายให้ดำเนินการตามข้อตกลงที่ผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) มีมติร่วมกันเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา และเพื่อให้นโยบายเศรษฐกิจของประเทศดำเนินต่อไปได้ โดยรัฐบาลชุดใหม่จะเข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในวันนี้เวลา 19.00 น.ตามเวลาไทย
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้สุดวันที่ 5 พ.ย. ปรับตัวลง 10,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 390,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์แรกของเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 400,000 ราย
ส่วนยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ย.ของสหรัฐปรับตัวลดลง 4% มาอยู่ที่ระดับ 4.31 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว จากระดับของเดือนส.ค.ที่ 4.49 หมื่นล้านดอลลาร์ ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ายอดขาดดุลการค้าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.60 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้น Kohl ซึ่งเป็นผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ดีดตัวขึ้น 2% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 20% ขณะที่หุ้นแอดวานซ์ ออโต้ พาร์ท พุ่งขึ้น 3.14% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ดีเกินคาด
หุ้นซิสโค ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 5.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่เพิ่มขึ้นเกินคาด
นักลงทุนจับตาดูรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนพ.ย.ของสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะอยู่ที่ 61.5 จุด เพิ่มขึ้นจากระดับ 60.9 จุดของช่วงท้ายเดือนต.ค.