HEMRAJ คงเป้ายอดขายที่ดินปีนี้ 1.7 พันไร่ จากปัจจุบัน 1.21 พันไร่

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 11, 2011 12:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเดวิด นาร์โดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) เปิดเผยว่าบริษัทขอยืนยันเป้าหมายยอดขายที่ดินอุตสาหกรรมในปี 54 จำนวน 1,700 ไร่ (680 เอเคอร์,275 เฮกเตอร์) เปรียบเทียบกับ 1,200 ไร่ (480 เอเคอร์,194 เฮกเตอร์) ที่เคยได้ประมาณการในช่วงต้นปี จากช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรม 1,212 ไร่

"นับจนถึงปัจจุบันในปี 2554 บริษัทฯได้เซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินไป 46 สัญญา และได้เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตของรายได้ในปีนี้โดยเฉพาะรายได้จากการขายที่ดินเพื่ออุตสาหกรรม และโรงงานสำเร็จรูปเพื่อขายหรือให้เช่า" กรรมการผู้จัดการ HEMRAJ กล่าว

สำหรับเหตุการณ์น้ำท่วม บริษัทไม่ได้มีผลกระทบโดยตรงต่อนิคมอุตสาหกรรมของเหมราชทั้งหกแห่งแต่อย่างใด รวมถึงลูกค้าทั้ง 689 โรงงานด้วย ทั้งนี้เนื่องจากนิคมฯของเหมราชทั้งหมดตั้งอยู่ในชัยภูมิที่เหมาะสมและมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลางค่อนข้างมาก

แต่ผลกระทบจากน้ำท่วมดังกล่าวได้มีผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของลูกค้าของเหมราชที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ในวงจำกัด ในระหว่างบริษัทฯได้ทำการเปิดศูยน์ปฏิบัติการสำรองที่นิคมฯอีสเทิร์นซีบอร์ด เพื่อดำเนินการควบคู่ไปกับสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพฯเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามปกติ และยังได้ให้ความช่วยเหลือแก่พนักงานที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้

ทั้งนี้ ในไตรมาส 3 ปี 54 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 154.4 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 56 จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.0159 บาทต่อหุ้น ลดลงร้อยละ 56 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา สำหรับงวดระยะเวลา 9 เดือนแรกของปี 54 บริษัทฯ กำไรสุทธิทั้งสิ้น 152.6 ล้านบาทหรือลดลงร้อยละ 87 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 53

สำหรับผลประกอบการที่ลดลง เนื่องจากรายได้ที่สามารถรับรู้ได้จนถึงปัจจุบันที่ลดลง มาจากการเปลี่ยนแปลงระบบมาตรฐานบัญชีในประเทศไทยในปี 2554 บริษัทฯคาดหวังว่าการรับรู้รายได้ของนิคมอุตสาหกรรมจะกลับเข้าสู่ภาวะปกตินับจากไตรมาสที่ 3 ปี 54 เป็นต้นไป และรายได้จากนิคมอุตสาหกรรมที่สามารถรับรู้ได้สำหรับปี 54 จะสูงกว่ารายได้จากปีก่อน(ก่อนปรับปรุง)

นายนาร์โดน กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทฯมีการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในนิคมอุตสาหกรรม ระบบสาธารณูปโภค โรงงานสำเร็จรูป และโลจิสติกส์ปาร์คแห่งใหม่ ในขณะที่ยังรักษาสภาพคล่องทางการเงินให้แข็งแรง การลงทุนนี้ได้รวมถึงการลงทุน 4.4 พันล้านบาท ในธุรกิจพลังงานที่บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 35 ในโครงการเก็คโค่-วัน ที่จะเปิดดำเนินการในช่วงต้นของปี 55

เนื่องจากรายได้ทั้งจากนิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภค และรายได้ค่าเช่าที่เติบโตอย่างต่อเนื่องนำมาซึ่งการขยายฐานรายได้ให้กว้างขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจ และจากการมาตรฐานบัญชีใหม่ที่บันทึกรายได้จากการโอนที่ดินจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆซึ่งจะสะท้อนถึงการเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ