นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ มาร์ท(JMART) มั่นใจในปี 54 จะมีกำไรเติบโตมากกว่า 40% จากปีก่อนที่มีกำไร 95 ล้านบาท หลังช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว 114 ล้านบาท เป็นการเติบโตจากทุกหน่วยธุรกิจ และปี 55 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเติบโตไม่ต่ำกว่า 30%
"เมื่อปีที่แล้วเราตั้งเป้ากำไรสุทธิปีนี้เติบโต 40% ตอนนี้คิดว่าน่าจะเกิน ส่วนปีหน้า ถ้าเพิ่มอีก 30% ถือว่าสุดยอดแล้ว คิดว่าเป็นไปได้ ถ้ามี 3จี เกิด ก็จะหนุนตลาด ตอนนี้โอเปอเรเตอร์ทุกร้ายพร้อมหมดแล้ว ถ้าใบอนุญาตออกเมื่อไร คิดว่าวันรุ่งขึ้นคงมีพร้อมของจำหน่าย" นายอดิศักดิ์ กล่าว
และในปี 55 บริษัทมีแผนขายหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 45 ล้านหุ้น โดยขั้นตอนต่างๆได้ผ่านการพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เหลือแต่การกำหนดราคาขาย โดยเงินที่ได้จะนำมาซื้อหนี้มาบริหาร เพื่อให้พอร์ตหนี้ที่บริหารอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 13,000 ล้านบาท คาดว่าต้องใช้เงินในการซื้อหนี้จำนวน 300-400 ล้านบาท นอกจากนี้ยังใช้ขยายธุรกิจโดยการเปิดสาขาเจมาร์ทช็อป เป็น 230 สาขา จากปัจจุบันอยู่ที่ 205 สาขา และเพิ่มพื้นที่เช่า จึงคาดว่าจะต้องมีการกู้เงินจากสถาบันการเงินเพิ่มเติมจากเงินที่ระดมได้จากการเพิ่มทุนด้วย
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนนำ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ตเวิร์ค เซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจบริหารหนี้สงสัยจะสูญ และบริการติดตามหนี้เร่งรัดหนี้ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในปี 55 ซึ่งบริษัทดังกล่าวขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ โดยเน้นลูกค้าที่ติดแบล็คลิสต์ มั่นใจธุรกิจดังกล่าวจะไม่มีผลขาดทุน แต่จะใช้เวลาทดสอบตลาด 3-6 เดือนก่อนประเมินผลดำเนินงานอีกครั้ง
ปัจจุบัน JMART มี 3 หน่วยธุรกิจ ได้แก่ จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีสัดส่วนรายได้ 90%ของรายได้รวม ธุรกิจพื้นที่เช่า มีรายได้ 4%ของรายได้รวม และธุรกิจติดตามหนี้ มีรายได้ 6% ของรายได้รวม