สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 68,889 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 66,132 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 96% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 1,451 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 2 ปี 6 ปี และ 10 ปี (LB137A LB176A และ LB21DA) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,078 ล้านบาท หรือคิดเป็น 74% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 988 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน )(BAY123A) หุ้นกู้ของ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) (BTG18NA) และ หุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL12OA) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 867 ล้านบาท หรือคิดเป็น 88% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 33,128 ล้านบาท กลุ่มนิติบุคคลในประเทศซื้อสุทธิ 3,852 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะขายสุทธิ 705 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับตัวลดลงเล็กน้อย หรือเฉลี่ยแล้วปรับตัวลดลงประมาณ -1 basis point ในวันนี้ตลาดตราสารหนี้ค่อนข้างเงียบ การซื้อขายกระจุกตัวอยู่ที่พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยที่ประมูลวันนี้เป็นหลัก ส่วนนักลงทุนต่างชาติมีแรงขายกระจายไปในเกือบทุกช่วงอายุตราสาร
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.37% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดที่ 3.29% ปรับตัวลดลง 0.01% จากวันก่อนหน้า