นายสมชัย สวัสดีผล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. รักษาการผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.) เปิดเผยว่า ศูนย์ติดตามสถานการณ์น้ำจากด้านทิศเหนือของสนามบินพบว่าขณะนี้เริ่มมีปริมาณน้ำเข้าสู่พื้นที่ด้านนอก ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์น้ำดังกล่าว ทสภ.จึงได้สำรวจคลองโดยรอบท่าอากาศยาน พบว่า คลองในพื้นที่ด้านทิศใต้ของสนามบินซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก ทางหน่วยงานราชการ และองค์การบริหารส่วนตำบล ได้มีการขุดลอกคลองเพื่อรองรับไว้บ้างแล้ว แต่มีบางคลอง เช่น คลองบางโฉลง คลองลาดกระบัง คลองบางน้ำจืด ช่วงใต้สะพานบนถนนบางนา-ตราดบางส่วน ตื้นเขินและมีสิ่งกีดขวาง เช่น ผักตบชวา ขยะ เป็นต้น ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการไหลของน้ำ
ดังนั้น ทสภ.จึงได้ระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 30 คน พร้อมเครื่องมือและอุปกรณ์ทำการขุดลอกคลอง โดยการให้เจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญพิเศษด้านการดำน้ำ ดำลงไปกำจัดขยะใต้คลอง กำจัดผักตบชวา รวมทั้งใช้รถดับเพลิงขนาดใหญ่ฉีดน้ำเพื่อไล่โคลนใต้สะพาน ซึ่งมีการขุดลอกคลองได้ลึกกว่าเดิมถึง 30 ซม.ทำให้น้ำในคลองไหลได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ขุดลอกคลองลาดกระบังเสร็จแล้ว ซึ่งในวันนี้ได้ขุดลอกคลองบางโฉลง และมีแผนจะดำเนินการขุดลอกคลองอื่นๆต่อไป
นายสมชัย กล่าวอีกว่า ปริมาณน้ำจากคลองต่างๆที่มาจากคลองด้านใต้ของสนามบินจะไหลลงสู่คลองสำโรง และกระจายไปตามคลองต่างๆ เช่น คลองด่าน คลองสุวรรณภูมิเพื่อไปสู่สถานีสูบน้ำด้านชายทะเลของกรมชลประทาน ที่สามารถรองรับได้ 30 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และจากการประสานงานกับกรมชลประทานในปัจจุบัน พบว่า ในขณะนี้ บริเวณคลองต่างๆมีปริมาณน้ำน้อย ซึ่งสถานีสูบน้ำคลองชายทะเลสูบได้เพียงวันละ 15 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เท่านั้น หรือประมาณร้อยละ 50 ของศักยภาพในการสูบระบายน้ำทั้งหมด
นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ยังมีความมั่นใจเกี่ยวกับระบบป้องกันน้ำท่วมของท่าอากาศยาน ว่ามีประสิทธิภาพสามารถรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ได้แน่นอน