สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 21,309 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 17,360 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 81% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 3,070 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 6 ปี 10 ปี และ 12ปี (LB176A LB21DA และ LB236A) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 2,449 ล้านบาท หรือคิดเป็น 80% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 738 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นหุ้นกู้ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) (CPN126A) หุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด(TLT149A) และ หุ้นกู้บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF188A) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 458 ล้านบาท หรือคิดเป็น 62% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 3,315 ล้านบาท กลุ่มนิติบุคคลในประเทศซื้อสุทธิ 2,130 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะขายสุทธิ 273 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับตัวลดลงเล็กน้อย หรือเฉลี่ยแล้วปรับตัวลดลงประมาณ -1 basis point ในวันนี้ตลาดตราสารหนี้มีมูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบางต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนยังคงชะลอการลงทุนจากภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้น สำหรับการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะมีอุปสงค์จากนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาในตราสารหนี้ระยะสั้น รวมถึงพันธบัตรธปท.อายุ 3 ปี ซึ่งทำให้อัตราผลตอบแทนอาจปรับลดลงได้เล็กน้อย
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.37% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดคงที่ที่ 3.29%