สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 82,281 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวัน คือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 78,837 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 96% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 2,771 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 2 ปี 6 ปี และ 10 ปี (LB133A LB176A และ LB21DA) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,853 ล้านบาท หรือคิดเป็น 67% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 460 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) (BJC157A) หุ้นกู้ของบริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) (TTW122A) และ หุ้นกู้ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) (PS13NA) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 348 ล้านบาท หรือคิดเป็น 76% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 27,644 ล้านบาท กลุ่มนิติบุคคลในประเทศซื้อสุทธิ 4,760 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 5,642 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับตัวลดลงเล็กน้อยต่อเนื่องจากเมื่อวาน หรือเฉลี่ยแล้วปรับตัวลดลงประมาณ -1 ถึง -2 basis point เนื่องจากมีแรงซื้อตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีการประมูลจากนักลงทุนในประเทศ ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศในช่วงนี้ลดลง แต่ในวันนี้ก็มีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาในตราสารอายุ 3 — 5 ปี
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดที่ 3.36% ปรับตัวลดลง 0.01% จากวันก่อนหน้า และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดคงที่ที่ 3.29%