ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: วิตกหนี้ยุโรปถ่วงฟุตซี่ลบ 1.60 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 16, 2011 07:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ขยับลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากตลาดได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนต.ค.

ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 1.60 จุด แตะที่ 5,517.44 จุด

ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลที่ว่าวิกฤตหนี้สาธารณะอาจจะลุกลามในยุโรป หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีดีดขึ้นไปยืนเหนือระดับ 7% อีกครั้งเมื่อวานนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่ารัฐบาลอิตาลีกำลังแบกภาระหนี้สินจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ขยับลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายโดยรวมได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ โดยยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.5% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ขณะที่ดัชนีการผลิตในรัฐนิวยอร์ก (Empire State Index) เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.6 จุดในเดือนพ.ย. จากระดับ -8.5 ของเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของกิจกรรมด้านการผลิตจะช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐให้แข็งแกร่งขึ้นในไตรมาส 4 ปีนี้

สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อหลัก ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5% ในเดือนต.ค. จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 5.2% และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5.1% แต่ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าเป้าหมายที่ธนาคารกลางอังกฤษกำหนดไว้ที่ 2%

หุ้นเบอร์เบอร์รี กรุ๊ป ร่วงลง 5.2% แม้บริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดก็ตาม

ขณะที่หุ้นเคเบิล แอนด์ ไวร์เลส ดิ่งลง 26% ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่บริษัทนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อเดือนมี.ค. 2553 หลังจากบริษัทประกาศระงับการจ่ายเงินปันผล และแต่งตั้งนายเกวิน ดาร์บี เป็นซีอีโอ

หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สร่วงลง 1.6% ขณะที่หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดิ่งลง 3.2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ