ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: วิตกสถานการณ์อิตาลี ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 16, 2011 07:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่า นายมาริโอ มอนติ ว่าที่นายกรัฐมนตรีอิตาลีจะได้รับเสียงสนับสนุนมากพอในการผลักดันมาตรการปฏิรูปการคลังหรือไม่ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของอิตาลีที่ดีดตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ 7%

ดัชนี Stoxx 600 ร่วงลง 0.6% แตะที่ 237.03 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3049.13 จุด ลบ 59.82 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 5933.14 จุด ลบ 51.88 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5517.44 จุด ลบ 1.60 จุด

ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าอิตาลีจะไม่สามารถรับมือกับภาระหนี้สินได้ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีดีดขึ้นไปยืนเหนือระดับ 7% อีกครั้งเมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นต้นทุนการกู้ยืมที่สูงมาก

นายมอนติ ว่าที่นายกรัฐมนตรีอิตาลีไดเประชุมกับผู้นำพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุด 2 พรรคของอิตาลีเมื่อวานนี้ เพื่อหารือกันเกี่ยวกับแนวทางการฟื้นฟูความเชื่อมั่นในตลาดและการปฏิรูปด้านการคลัง โดนนายมอนติพยายามหาเสียงสนับสนุนจากนักการเมืองอิตาลีให้ได้มากพอเพื่อที่คณะรัฐมนตรีของเขาจะสามารถเร่งรัดการปฏิรูปที่จำเป็นได้

ทั้งนี้ อิตาลีจำเป็นต้องระดมทุนจำนวนมากเพื่อนำมาชำระหนี้พันธบัตรเก่าราว 2 แสนล้านยูโร (2.73 แสนล้านดอลลาร์) ก่อนสิ้นเดือนเม.ย. 2555 ซึ่งถือเป็นภารกิจที่ยากลำบาก ขณะเดียวกันอิตาลีจำเป็นต้องจ่ายอัตราผลตอบแทนราว 6.3% ในการเปิดประมูลขายพันธบัตรประเภท 5 ปีเมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นอัตราผลตอบแทนสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการใช้เงินยูโร

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากสถาบัน ZEW ของเยอรมนีเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเดือนพ.ย. ลดลงสู่ระดับ -55.2 จุด จากระดับ -48.3 จุดของเดือนต.ค. เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลวว่า วิกฤตหนี้สาธารณะจะทำให้เศรษฐกิจถอยร่นเข้าสู่ภาวะถดถอย

หุ้นฟินเมคแคนิกา เอสพีเอ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์รายใหญ่ของยุโรป ร่วงลง 20% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนก่อนหักดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) สูงถึง 200 ล้านยูโร

ห้นยูนิเครดิต เอสพีเอ ธนาคารรายใหญ่ของยุโรป ร่วงลง 4.5% ขณะที่หุ้นเวียนนา อินชัวรันซ์ ร่วงลง 4.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 3.9% สู่ระดับ 98.2 ล้านยูโร ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 102.8 ล้านยูโร

หุ้นอิเล็กโทรลักซ์ร่วงลง 6.3% หลังจากมีข่าวว่าบริษัทเตรียมปิดโรงงานหลายแห่งในยุโรปและอเมริกาเหนือ เพื่อลดต้นทุน หลังจากอุปสงค์เครื่องใช้ไฟฟ้าชะลอตัวลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ