ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนตัวทั้งในแดนบวกและแดนลบเช้าวันนี้ หลังจากที่ตลาดมีทั้งปัจจัยบวกและลบคละเคล้ากันไป โดยปัจจัยบวกได้แก่ยอดขายปลีกสหรัฐที่ขยายตัวสูงกว่าคาดการณ์ แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของอิตาลีปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการควบคุมหนี้สินโดยรัฐบาลชุดใหม่ของอิตาลี และการป้องกันไม่ให้วิกฤตยุโรปลุกลามออกไป
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 8,546.75 จุด เพิ่มขึ้น 4.82 จุด ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,483.10 จุด เพิ่มขึ้น 134.66 จุด ขณะที่ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,898.14 จุด เพิ่มขึ้น 12.02 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,520.95 จุด เพิ่มขึ้น 29.89 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,481.16 จุด เพิ่มขึ้น 3.94 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,291.20 จุด เพิ่มขึ้น 5.60 จุด และดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,828.46 จุด เพิ่มขึ้น 16.88 จุด
ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ขยับลง 0.1% แตะ 117.60 จุด เมื่อเวลา 9.56 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว
หุ้นฮุนได มอเตอร์ บวก 0.9% ส่วนหุ้นโซนี่ คอร์ป รวง 1.3% สำหรับหุ้นเอลพิดา เมมโมรี อิงค์ พุ่ง 9.1%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐในเดือนต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากที่เดือนก.ย.มีการปรับตัวขึ้นมาแล้ว 1.1% นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ยังออกมาสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ทำให้ยอดค้าปลีกตลอดระยะเวลา 12 เดือนนับจนถึงเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.2%
รายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ของปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงเกินคาด มาจากยอดขายในกลุ่มยานยนต์และวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งสามารถชดเชยการลดลงของยอดค้าปลีกน้ำมันเบนซินที่สถานีบริการทั่วประเทศ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะก้าวเข้าสู่ไตรมาส 4 อย่างคึกคัก