นางกมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผุ้จัดการใหญ่ บมจ.ดิเอราวัณ กรุ๊ป (ERW) กล่าวว่าในปี 54 บริษัทคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลได้ในอัตรา 35% ของกำไรสุทธิ เนื่องจากปีนี้บริษัทจะกลับมีกำไรอีกครั้งในรอบ 2 ปี หลังจากช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 592 ล้านบาท
แม้ว่าช่วงไตรมาส 4 นี้ บริษัทจะขาดทุนจากผลกระทบน้ำท่วม ทำให้อัตราการเข้าพักลดลง โดยปีนี้ตั้งเป้าอัตราเข้าพักเฉลี่ย 72% แต่คงทำได้แค่ 70% และราคาห้องพักเฉลี่ยของกลุ่มเอราวัณ อยู่ที่ 1,650 บาท/ห้อง/คืนจากที่ตั้งเป้าไว้ที่ 1,750 บาท/ห้อง/คืน ส่งผลให้รายได้ปี 54 เติบโต 16% ลดลงจากเป้าหมายที่คาดว่ารายได้จะเติบโต 20%
"ผลประกอบการไตรมาส 3 ขาดทุนและไตรมาส 4 ก็คงขาดทุนต่อเนื่องแต่คงลดลง อย่างไรก็ตามทั้งปียังมีกำไรและสามารถจ่ายปันผลได้ ในรอบ 2 ปี "นางกมลวรรณ กล่าว
และในปี 55 คาดว่ารายได้จะเติบโต 20% และกำไรจะโตต่อเนื่องจากปี 54 โดยคาดว่า จะมีกำไรจากการดำเนินการและการขายสินทรัพย์ ซึ่งบริษัทจะขายโรงแรมในเครือ 1 แห่ง โดยคาดว่าจะมีกำไรจากการขาย เหมือนเช่นการขายตึกเพลินจิตเซ็นเตอร์
นางกมลวรรณ กล่าวว่า การลงทุนใหม่ในปีหน้า บริษัทจะเริ่มก่อสร้างโรงแรมใหม่ 6 แห่ง มูลค่าลงทุน 1.3 พันล้านบาท โดยจะก่อสร้างโรงแรมในกรุงเทพ 1 แห่ง , พัทยา 2 แห่ง, กระบี่ 1 แห่ง และ ภูเก็ต 2 แห่ง ซึ่งบริษัทยังคงแผนพัฒนาโรงแรมระดับกลางภายใต้แบรนด์ ibis และในระด้บสูง ใช้แบรนด์ Holiday Inn ส่วนระดับพรีเที่ยมมีเพียงโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ เหมือนเดิม รวมทั้งบริษัทมีแผนจะซื้อกิจการโรงแรมเพิ่มเติม
ทั้งนี้ วงเงินลงทุน 5 ปี (54-58 ) มีจำนวน 8 พัน ถึง 1 หมื่นล้านบาท โดยปี 55 จะใช้งบลงทุน 1.3 พันล้านบาท
นา'กมลวรรณ กล่าวว่า ในปี 55 บริษัทจะเปิดโรงแรมใหม่ 3 แห่ง ที่หัวหินในเดือนม.ค. , ปลายปี 55 จะเปิดที่กรุงเทพ 2 แห่ง คือเมอร์เคียวสยาม และ ไอบิส สยาม ซึ่งอยู่ย่านสยามสแควร์ทั้งสองแห่ง