โบรกเกอร์เชียร์"ซื้อ"บมจ.จีเอฟพีที(GFPT)คาดกำไรในไตรมาส 1/55 ฟื้นตัวหลังไตรมาส 4/54 อ่อนตัวลงจากราคาไก่ที่ปรับตัวลดลงในช่วงน้ำท่วมตามความต้องการลดน้อย และเกษตรกรรายย่อยชิงขายไก่หนีน้ำท่วม แต่หลังจากน้ำลดคาดว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นจากซัพพลายในตลาดน้อยลงทำให้ราคาเนื้อไก่มีโอกาสปรับขึ้นสูง ประกอบกับใกล้เทศกาลตรุษจีน
ดังนั้น คาดว่าปี 55 กำไรสุทธิของ GFPT จะสูงขึ้น 7- 17% จากปี 54 ที่คาดกำไรสุทธิโต 7-12% อีกทั้ง GFN บริษัทร่วมทุนจะมีกำลังการผลิตเต็ม 100% และเริ่มมีกำไร จากปีนี้ที่ยังมีผลขาดทุนจากการเริ่มเดินเครื่องยังไม่เต็มที่
นอกจากนี้ ราคาหุ้น GFPT เทรดในกระดานยังถูก จึงแนะให้เก็บเข้าพอร์ต
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) บล.เอเซียพลัส ซื้อ 13.33 บล.ทรีนิตี้ ซื้อ 12.70 บล.เคมีซีมิโก้ ซื้อ 12.50 บล.ฟิลลิป ซื้อ 12.20 บล.บัวหลวง trading buy 11.00 บล.ดีบีเอสฯ ซื้อ 10.30
นางสาวนารี อภิเศวตกานต์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) แนะนำ"ซื้อ" หุ้น GFPT แม้คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 3/54 ต่ำกว่าคาด และแนวโน้มในไตรมาส 4/54 จะอ่อนตัวลง จากผลกระทบน้ำท่วมแต่คงไม่รุนแรง แต่คาดว่าทั้งปี 54 บริษัทยังมีอัตราการเติบโตที่ดี
และในปี 55 แนวโน้มผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่อง จากบริษัท GFN ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน(ถือหุ้น 49% จะเริ่มเดินเครื่องต็มร้อย และจะมีกำไรจากปีนี้ที่ยังขาดทุนเพราะยังทำงานไม่เต็มกำลังการผลิต โดยคาดว่ากำไรสุทธิในปี 54 อยู่ที่ 1,306 ล้านบาท เติบโต 12% จากปีก่อน และปี 55 ประเมินกำไรสุทธิที่ 1,521 บาท เติบโต 17%
อีกทั้งราคาหุ้นในตลาดขณะนี้ยังถูกกว่าเป้าหมายราคาที่ให้ไว้ที่ 12.20 บาท มี P/E 10 เท่า ขณะที่สในตลาดเทรดประมาณ 8.9 เท่า
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า หุ้น GFPT ขณะนี้เป็นหุ้นในกลุ่มอาหารที่มีราคาค่อนข้างถูก เทรดบน P/E ประมาณ 8 เท่า ขณะที่แนวโน้มความต้องการเนื้อไก่จะมีเพิ่มขึ้นหลังน้ำลด เนื่องจากช่วงทีผ่านมาที่เกษตรกรรายย่อยเร่งขายไก่ออกมาทำให้ราคาเนื้อไก่ลดลงมาที่ 38 บาท/กก.สำหรับไก่เป็น และไตรมาส 4/54 เป็นช่วงโลว์ซีซั่นด้วย โดยคาดว่าจะมีกำไรราว 290 ล้านบาท ต่ำกว่าไตรมาส 3/54 ที่มีกำไร 370 ล้านบาท
แต่คาดว่าราคาเนื้อไก่จะกลับมาดีในไตรมาส 1/55 และทั้งปี 55 เนื้อไก่น่าจะมีราคาเฉลี่ยประมาณ 45 บาท/กก. จากที่ราคาเคยขึ้นไปสูงสุด 50-60 บาท/กก.นอกจากนี้ GFN บริษัทร่วมทุนคาดว่าในปีหน้าจะเริ่มมีกำไรหลังจากเดินเต็มกำลังการผลิตจากปีนี้ที่ขาดทุน จึงคาดว่ากำไรสุทธิปี 54 อยู่ที่ 1,270 บาท เติบโต 9% จากปีก่อน และ ปี 55 กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,400 ล้านบาท เติบโต 7% เช่นกัน
ส่วน บล.ทรีนิตี้ มองว่า GFPT ไม่กระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม แต่สถานการณ์ราคาไก่เป็นในปัจจุบันที่อ่อนตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 3/54 โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 39.50 บาท/กก.ลดลงราว 5.6% QoQ ภายหลังเกษตรกรรายย่อยเร่งระบายสินค้าออกสู่ตลาดเพื่อหลีกเลี่ยงผลผลิตที่จะเสียหายหากถูกน้ำท่วม อีกทั้งภาวะการบริโภคที่ลดลงเพราะประชาชนประสบภัยพิบัติ ทำให้ราคาไก่ปรับตัวลดลง ในขณะที่ตลาดส่งออกเป็นช่วง Low season ในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นปกติของทุกปี จึงทำให้แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/54 ของ GFPT มีทิศทางอ่อนตัวลงชัดเจน
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาไก่เป็นที่จะปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งภายหลังน้ำลด เพราะซัพพลายหายไปจากตลาดค่อนข้างมาก ดังนั้น GFPT น่าจะได้รับผลบวกดังกล่าวในฐานะที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่ไม่ได้ความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม โดยเราประเมินว่าแนวโน้มกำไรในไตรมาส 1/55 ของบริษัทฯจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง ตามภาวะการจับจ่ายใช้สอยที่จะกลับมาเป็นปกติและผลบวกจากเทศกาลตรุษจีน