นายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้า(EGCO)เปิดเผยว่า บริษัทแสดงความจำนงเข้าร่วมหุ้นของจีเอส เพาเวอร์ คาดได้ข้อสรุปปลายเดือนนี้ถึงต้นเดือน ธ.ค.ปีนี้ รวมถึงศึกษาการลงทุนร่วมกับโรงไฟฟ้าเควซอนในประเทศฟิลิปปินส์ นอกจากนี้มีความสนใจลงทุนในเหมืองถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียด้วย
บริษัทเตรียมงบลงทุนปี 55-57 ปีละ 6,000 ล้านบาทในการลงทุนและร่วมทุนในโรงไฟฟ้า ซึ่งโครงการลงทุนตั้งแต่เริ่มต้น และโครงการที่ต้องการเข้าไปร่วมทุน รวมกว่า 10 โครงการ เพื่อหารายได้มาชดเชยโรงไฟฟ้าระยองและขนอมที่กำลังจะหมดสัญญาลงในปี 57 และ 59 ตามลำดับ ทำให้ส่วนแบ่งรายได้ค่าไฟลดลงต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงปลายสัญญา
อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่ได้กำหนดจำนวนเมกะวัตต์ที่จะเพิ่มขึ้นและต้องการรักษาระดับกำไรสุทธิ 5-6 พันล้านบาท โครงการที่สนใจร่วมลงทุนมีทั้งในอาเซียนและเอเชียรวมถึงออสเตรเลีย
สำหรับฐานะทางการเงินบริษัทมีกระแสเงินสด 6.2 พันล้านบาท และมีความพร้อมในการกู้เงินอีกจำนวนมากเนื่องจากอัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับต่ำแค่ 0.25 เท่า
นายสหัส กล่าวว่า แม้ผลประกอบการ 9 เดือนกำไรสุทธิของบริษัทจะลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วน แต่บริษัทยังมั่นใจว่าจะสามารถจ่ายปันผลเท่ากับปีก่อนที่ 5.25 บาท/หุ้น โดยระหว่างกาลได้ปันผลไปแล้ว 2.50 บาท/หุ้น
ทั้งนี้ ไตรมาส 4/54 คาดว่าทั้งรายได้และกำไรยังคงน้อยกว่าไตรมาส 3/54 ซึ่งเป็นปกติของธุรกิจไฟฟ้า
"โรงไฟฟ้าระยองและขนอมที่จะต่อสัญญากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) น่าจะต่ออายุได้ราว 5 ปี แต่อย่างไรก็ตามคงต้องรอข้อกำหนดที่ชัดเจนจาก กฟผ.ก่อน" นายสหัส กล่าว