นายกานต์ ตระกูนฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์(SCC)มองว่าในปี 55 ธุรกิจซิเมนต์ วัสดุก่อสร้าง และปิโตรเคมี จะเติบโตได้ตามความต้องการที่ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลาย ในขณะนี้บริษัทได้เตรียมสต็อกซิเมนต์และวัสดุก่อสร้างไว้เพื่อรองรับแล้ว และบริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนตามแผนงานไม่มีการชะลอออกไปแต่อย่างใด
ขณะนี้โรงงานทั้งหมดในเครือที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม ทยอยกลับมาเดินเครื่องตามปกติแล้ว เหลือเพียงโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมนวนครที่ขณะนี้ระดับน้ำรอบพื้นที่โรงงานยังไม่ลดลง ได้แก่ โรงงานผลิตก๊อกน้ำคอตโต้ และโรงงานผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์สยามคูโบต้า ซึ่งขณะนี้บริษัทมีแผนรองรับไว้แล้วโดยเตรียมสั่งอุปกรณ์และเครื่องจักรเพื่อซ่อมแซมโรงงานทันที คาดว่าภายในต้นไตรมาส 1/55 ทุกโรงงานจะกลับมาเดินเครื่องตามปกติ
นายกานต์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนเดินทางไปโรดโชว์นำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนที่นิวยอร์กระหว่าง 28-29 พ.ย.นี้ร่วมกับทางยูบีเอส เชื่อว่านักลงทุนคงจะสอบถามสถานการณ์ภาคการผลิตและเศรษฐกิจในประเทศไทย ซึ่งมั่นใจว่าความเชื่อมั่นในการลงทุนน่าจะยังดีอยู่ คาดว่าจะได้พบกับนักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่วันละไม่ต่ำกว่า 6-7 ราย
ส่วนผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดกับบริษัท เชื่อว่าจะเกิดขึ้นในช่วงสั้นเท่านั้น แต่ในระยะยาวบริษัทจะเติบโตต่อเนื่องทั้งการจัดระบบโครงสร้างพื้นฐานและการจัดการน้ำของประเทศ จะส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจในปีหน้า
สำหรับกลุ่มปิโตรเคมีจะทำสัดส่วนรายได้ให้กับบริษัทสูงสุดในปีหน้า และราคาผลิตภัณฑ์น่าจะยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าครึ่งปีหลังสเปรดจะสูงขึ้นมาอยู่ที่ 500 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากปัจจุบันอยู่ที่ 440 แหรียญสหรัฐ/ตัน และยังเชื่อว่า super cycle ของธุรกิจปิโตรเคมีจะอยู่ในช่วงปี 56-57