โบรกฯแนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.ไทยคม (THCOM) คาดกำไรฟื้นตัวต่อเนื่องตามแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจไอพีสตาร์ ที่ได้รับแรงหนุนจากการรับรู้รายได้เต็มที่จากลูกค้าญี่ปุ่น และมีแรงส่งจากการขายสถานีควบคุมเครือข่ายภาคพื้นดินให้กับญี่ปุ่น ออสเตรเลีย พม่า และยังมีลุ้นลูกค้าจากจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ ขณะที่ธุรกิจให้บริการโทรศัพท์ในลาวและกัมพูชาไตรมาส 3 ดีขึ้นคิดว่าจะดีต่อเนื่องถึงปีหน้า
โบรกฯ คำแนะนำ ราคาพื้นฐาน บล.เคทีบี(ประเทศไทย) ซื้อ 13.60 บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 13.50 บล.เอเซียพลัส ซื้อ 14.00 บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ซื้อ 13.70 บล.โกลเบล็ก ซื้อ 13.10 นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี(ประเทศไทย) แนะ"ซื้อ"ให้ราคาพื้นฐานปี 55 ที่ 13.60 บาท ผลประกอบการไตรมาส 3/54 มีกำไรสุทธิ 16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นชัดเจนเทียบไตรมาส 2 ที่ขาดทุน 25 ล้านบาท ส่วนเหลือของปีนี้ต่อไปถึงปีหน้า (55) ยังเห็นภาพของผลประกอบการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยแรงหนุนที่สำคัญเรื่องการรับรู้รายได้จากญี่ปุ่น และก่อนที่จะใช้บริการดาวเทียมก็จะมีเรื่องการขายสถานีควบคุมเครือข่ายภาคพื้นดินให้กับประเทศญี่ปุ่น พม่า ออสเตรเลีย ตรงนี้ยังคงเป็นปัจจัยบวกในเชิงยอดขายและมีแนวโน้มที่จะสร้างผลกำไรกลับมา ส่วนธุรกิจด้านบริการโทรศัพท์ในลาวกับกัมพูชาในภาพรวมไตรมาส 3 ฟื้นตัวขึ้น qoq ภาพนี้น่าจะยังเป็นไปต่อเนื่องถึงปีหน้าด้วย ส่วนไทยคม 6 ยังต้องใช้เวลาเพราะเรื่องการยิงดาวเทียมต้องรอผู้บริหารบริษัทสรุป คาดว่าจะเป็นปี 2556 แต่ช่วงก่อนยิงดาวเทียมก็จะมีเรื่องการขายอุปกรณ์ที่ต้องพยายามหาลูกค้าให้อยู่ในมือระดับหนึ่งก่อน น.ส.มินทรา รัตยาภาส นักวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน แนะ"ซื้อ"ราคาพื้นฐาน 13.50 บาท ไตรมาส 4/54 น่าจะเห็นกำไรต่อจากไตรมาส 3 ปัจจัยหลักธุรกิจดาวเทียมเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม ไตรมาส 4 อาจจะมีบริษัทลูก เช่น CSL ธุรกิจมีผลกระทบน้ำท่วมจะมีผลทำให้ส่วนแบ่งกำไรลดลงจากปกติจะรับรู้ส่วนแบ่งจากบ.ลูก 40 ล้านบาทต่อไตรมาส อาจมีผลแต่BrandWidth ไอพีสตาร์ดึงขึ้นมาและอัตรากำไรของ BrandWidth ก็ดีก็จะไม่ทำให้กำไรถูกฉุดจากบริษัทลูก ปีนี้ผลประกอบการจะต่ำกว่าที่คาดไว้ที่กำไร 100 ล้านบาท เพราะ 9 เดือนขาดทุน ไตรมาส 4 แม้จะมีกำไรมากกว่าไตรมาส 3 ที่ 16 ล้านบาท แต่ทั้งปีคงจะไม่พลิกเป็นกำไร แต่แนวโน้มปีหน้า (55) กำไรดีขึ้นเพราะความสามารถในการสร้างรายได้ของไทยคม 5 จะมีเพิ่มทั้งจากแบ็กล็อกที่ดี และไอพีสตาร์ตลาดใหญ่อย่างจีนยังเป็นไฮไลท์ที่สำคัญ นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส แนะ"ซื้อ"มีแรงขับเคลื่อนเรื่องการขยายตลาดต่างประเทศและมีการรับรู้รายได้ จึงปรับคำแนะนำเป็นซื้อระยะหนึ่งแล้ว ให้ราคาเป้าหมาย 14.00 บาท ปี 55 น่าจะเป็นกำไรสุทธิได้ ซึ่งก็เริ่มเป็นกำไรตั้งแต่ปลายปีนี้แล้ว น.ส.รัศดา ทวีแสงสกุลไทย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 13.70 บาท ไตรมาส 4 กำไรจะดีกว่าทุกไตรมาส ขณะที่ไอพีสตาร์มีลูกค้ามากขึ้นขายได้มากขึ้นโดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจไอพีสตาร์น่าจะดี