ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (23 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการคลังของเยอรมนี หลังจากรัฐบาลเยอรมนีไม่สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมายในการเปิดประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปีเมื่อวานนี้
ดัชนี Stoxx 600 ร่วงลง 1.3% ปิดที่ 220.31 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 2822.43 จุด ลบ 48.25 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 5457.77 จุด ลบ 79.62 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5139.78 จุด ลบ 67.04 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปผันผวนอย่างหนัก หลังจากมีรายงานว่า เยอรมนีไม่สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมายในการเปิดประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปีเมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณว่า เศรษฐกิจเยอรมนีไม่สามารถต้านทานวิกฤตหนี้ยูโรโซนที่กำลังลุกลามไปทั่วภูมิภาคได้
ข้อมูลจากธนาคารกลางเยอรมนีเผยว่า ยอดประมูลพันธบัตรซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2564 อยู่ที่ 3.889 พันล้านยูโร (5.21 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ที่ 6 พันล้านยูโร (8.06 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) อยู่ถึง 35% อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่มากผิดปกติในตลาด ขณะที่อัตราผลตอบแทนในการประมูลขายพันธบัตรครั้งนี้อยู่ที่ 1.98%
นอกจากนี้ ข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของจีนและเยอรมนียังสร้างแรงกดดันให้กับตลาดหุ้นทั่วยุโรป โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนร่วงลงสู่ระดับ 48 จุดในเดือนพ.ย.ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตของเยอรมนีร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 47.9 จุดในเดือน พ.ย. โดยดัชนี PMI ของทั้งสองประเทศอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 จุดซึ่งเป็นเส้นชี้วัดการขยายตัวและการหดตัว
หุ้นโลจิคอลร่วงลง 4.2% หลังจากยูบีเอสได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงมาอยู่ที่ระดับ “underperform" จากระดับ “hold" หุ้นฮัลฟอร์ด กรุ๊ป ร่วงลง 5.1% หลังจากนักวิเคราะห์หลายคนมองว่าโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจของฮัลฟอร์ดมีจำกัดมาก