KEST เปลี่ยนชื่อเป็น บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ชื่อย่อ MBKET ตั้งแต่ 25 พ.ย.54

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 24, 2011 11:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (KEST) เปิดเผยว่า บริษัทจะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป หลังจากบริษัทฯ ได้เปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยบริษัท เมย์บัน ไอบี โฮลดิ้งส์ บริษัทในเครือของธนาคารเมย์แบงก์ เข้าถือหุ้นในบริษัท กิมเอ็ง โฮลดิ้งส์ ประเทศสิงคโปร์ จำนวน 100% ส่งผลให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ เปลี่ยนจากกลุ่มกิมเอ็ง โฮลดิ้งส์ ประเทศสิงคโปร์ เป็นกลุ่มเมย์แบงก์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งบริษัท เมย์บัน ไอบี โฮลดิ้งส์ (Mayban IB Holdings Sdn. Bhd.) เข้าถือหุ้นในกิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ KEST จำนวน 83.74% ทั้งนี้ ตัวย่อบริษัทฯ จะเปลี่ยนเป็น MBKET รวมทั้งเปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.maybank-ke.co.th อีกด้วย

ภายใต้การถือหุ้นของกลุ่มเมย์แบงก์จะช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของกิมเอ็งซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและมีเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มนักลงทุนรายย่อย กลุ่มเมย์แบงก์จะช่วยสนับสนุนด้านฐานะการเงินและความมั่นคงของกิมเอ็งให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น อันจะเห็นได้ว่าเมื่อเร็วๆ นี้ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ได้รับการเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว เป็น AA- จากเดิม A ซึ่งถือว่าเป็นอันดับเครดิตของบริษัทหลักทรัพย์ที่สูง และสามารถเทียบเท่ากับอันดับเครดิตของธนาคารพาณิชย์ไทยบางแห่ง

กลุ่มเมย์แบงก์เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีธุรกิจหลัก คือธนาคารเมย์แบงก์ (Malayan Banking Berhad) ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศมาเลเซียและเป็นธนาคารอันดับหนึ่งของประเทศและยังเป็นธนาคารใหญ่อันดับที่ 4 ในการจัดอันดับของธนาคารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย ดำเนินธุรกิจมายาวนานถึง 51 ปี มีเครือข่ายสาขามากมายในประเทศศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญต่างๆ อาทิ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม โดยมีขนาดของสินทรัพย์รวม 136.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2554 ธนาคารเมย์แบงก์เป็นธนาคารที่เน้นกลุ่มลูกค้าสินเชื่อรายย่อยและธุรกิจขนาดใหญ่และมีความเชี่ยวชาญธุรกิจวาณิชธนกิจซึ่งจะช่วยเกื้อหนุนธุรกิจด้านนี้ให้แก่บริษัทฯ ได้เป็นอย่างดีและจะมีความร่วมมือในธุรกิจด้านวาณิชธนกิจมากขึ้นในอนาคต

นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจหลักทรัพย์รายย่อย กล่าวว่า ภายหลังการเปลี่ยนชื่อบริษัทแล่ว นโยบายการให้บริการแก่ลูกค้ารายย่อยยังคงเหมือนเดิมโดยให้บริการผ่านสาขาต่างๆ ของบริษัทฯ รวม 44 สาขา ล่าสุดบริษัทฯ ได้เปิดสาขาระยอง 2 ขึ้นอีก 1 แห่ง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริการแก่ลูกค้าให้ได้มากยิ่งขึ้น

การเข้าถือหุ้นของบริษัทฯ โดยกลุ่มเมย์แบงก์ นับว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสอดคล้องกับการรวมตัวของประเทศในกลุ่มอาเซียน ที่ต้องการผลักดันโครงการเชื่อมโยงระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ในกลุ่มภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Exchange Linkage) ประกอบด้วย ไทย มาเลเซีย อินโดนิเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม ซึ่งรวมตัวกันเชื่อมโยงระบบการซื้อขายอิเลคทรอนิคส์ระหว่างกัน สร้างพันธมิตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของตลาดภูมิภาคอาเซียนให้มีความน่าสนใจและทำให้นักลงทุนจากต่างประเทศหันมาสนใจและเลือกลงทุนในแถบภูมิภาคอาเซียนมากยิ่งขึ้น

ทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทจดทะเบียนของประเทศที่มีผลการดำเนินงานดี มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีตามแนวทางที่ยอมรับในระดับสากล และมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องให้เป็นที่รู้จักและยอมรับต่อนักลงทุนต่างชาติมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปี 2555 ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ มีความพร้อมที่จะเปิดให้บริการได้ก่อนในไตรมาสแรก ดังนั้น การมีกลุ่มเมย์แบงก์จะช่วยเกื้อหนุนและเพิ่มขีดความสามารถของบริษัทฯ ให้เข้าสู่โครงการอาเซียนลิงค์เกจได้เป็นอย่างดี บริษัทฯ จึงมีความมั่นใจที่จะเปิดบริการและต้อนรับนักลงทุนจากต่างประเทศ โดยในอนาคตบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทหลักทรัพย์อันดับหนึ่งในภูมิภาคอาเซียนต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ