นางพิกุล ศรีมหันต์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายสินเชื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยถึงการเติบโตของสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปี 55 ของธนาคารว่า น่าจะขยายตัวในอัตราชะลอลงจากปี 54 ซึ่งมียอดค้างสินเชื่อที่ 330,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 53 จำนวน 20% เนื่องจากปริมาณที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จเข้าสู่ตลาดน้อยจากภัยน้ำท่วม ดดยคาดว่า ในปี 55 ยอดคงค้างสินเชื่อน่าจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 345,000 ล้านบาท จากการขยายตัวสินเชื่อใหม่ 15,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม มองว่า ในปี 55 ความต้องการสินเชื่อเพื่อการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยของตลาดจะสูงขึ้น เป็นประมาณ 10,000 ล้านบาท จากปกติเติบโตที่ประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท ในส่วนของธนาคารไทยพาณิชย์มีการเติบโตที่ 2,000 ล้านบาทต่อปี แต่ในปีหน้าคาดว่าจะเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 10 เท่าตัว หรือคิดเป็นมูลค่า20,000 ล้านบาท ขณะที่สินเชื่อบ้านแลกเงินของธนาคารซึ่งปี 54 เติบโตที่ 2,000 ล้านบาทก็เร่งตัวขึ้นด้วย เนื่องจากธนาคารจะหันมาทำตลาดสินเชื่อทั้ง2 ประเภทมากขึ้น โดยเบื้องต้นตั้งวงเงินไว้ที่ประมาณ 20,000 ล้านบาท แต่หากความต้องการลูกค้ามีสูงกว่าก็จะขยายเพิ่มไม่มีการจำกัด
“สินเชื่อปีนี้จบที่ยอดคงค้าง 330,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 53 จำนวน 20-25% ซึ่งเดิมวางเป้าไว้ที่ 70,000 ล้านบาท แต่คิดว่าจะได้ถึง 100,000 ล้านบาท แต่ด้วยน้ำท่วมคาดว่าจะอยู่ที่ 90,000 ล้านบาทแต่ก็เกินเป้าแล้ว ขณะที่ปัญหาหนี้เสียก็น้อยมากเพียง 0.8% ของสินเชื่อบ้าน"นางพิกุล กล่าว
นอกจากนั้นธนาคารได้วางเป้าหมายชิงส่วนแบ่งการตลาดที่อยู่อาศัยแนวสูงแม้จะเป็นอันดับ 1 อยู่แล้วโดยจะเพิ่มจาก 30% เป็น 50-60% เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่อยู่อาศัยแนวสูงที่เร่งตัวขึ้นมากจากภาวะน้ำท่วม โดยคาดว่าจะมีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จเข้าสู่ตลาดปี 55จำนวน 46,000 ยูนิต ซึ่งราคาขายจะสูงขึ้น แต่ขนาดพื้นที่ลดลง
ขณะที่ในปี 55 ราคาประเมินสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยในทำเลที่ตั้งในพื้นที่เคยได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมจะลดลงประมาณ 10% ดังนั้นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จำเป็นปรับลดราคาขายที่อยู่อาศัยลดลงด้วย แต่ในส่วนของธนาคารยังคงอนุมัติสินเชื่อให้แก่ลูกค้าในมูลค่าเท่าเดิม