(เพิ่มเติม) BCP คาดรายได้ Q4/54 รับผลลบน้ำท่วม,ค่าการกลั่นเฉลี่ยปี 55 ที่ 7เหรียญฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 28, 2011 15:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP)คาดว่า รายได้ในช่วงไตรมาส 4/54 จะลดลงประมาณ 300 ล้านบาท จากผลกระทบภาวะน้ำท่วม ทั้งยังทำให้การไฟฟ้าจากโรงงานแสงอาทิตย์ขนาด 8 เมกกะวัตต์กับ 30 เมกกะวัตต์ ล่าช้ากว่าแผน โดยต้องเลื่อนไปจำหน่ายไฟฟ้าในปี 55 แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ารายได้ในปีนี้ยังเป็นไปตามเป้าหมาย

ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)ย้ายสถานที่จ่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าบางปะหันที่มีกำลังการผลิต 16 เมกกะวัตต์ เพราะกังวลว่าอาจเกิดปัญหาน้ำท่วมอีกในอนาคต คาดว่าจะสรุปได้ในไตรมาส 1/55

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ช่วงน้ำท่วมมีการใช้น้ำมันลดลงสูงสุด 14% และเฉลี่ยที่ 8-9% ทั้งนี้ในเดือน ธ.ค.มีแผนผลิตถึง 9.5 หมื่น-1 แสนบาร์เรล/วั นเนื่องจากเป็นช่วงฤดูหนาว

"ผลจากน้ำท่วมทำให้โรงไฟฟ้า 8 เมกกะวัต์และ 30 เมกกะวัตต์รายได้หายไป เงินลงทุน 2.5 พันล้านเสียหายแต่เราก็มีประกันเคลมได้หมด แต่ไม่ต้องห่วงเพราะเราเชื่อว่าทั้งปียังเป็นไปตามเป้าหมายและในเดือน ธ.ค.ที่เป็นช่วงฤดูหนาวความต้องการใช้น้ำมันสูง"

สำหรับในไตรมาส 4/54 คาดว่าค่าการกลั่นจะอยู่ที่ 6 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีกำลังการกลั่นอยู่ที่ 92,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งสามารถชดเชยผลประกอบการที่ลดลงไปได้ เพราะขณะนี้กำลังการกลั่นเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 86,000 บาร์เรล/วัน ส่วนในปี 55 คาดว่าค่าการกลั่นเฉลี่ยจะอยู่ที่ 7 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการกลั่นน้ำมันทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง รวมทั้งผลิต LPG มากขึ้น

ด้านราคาน้ำมันดิบในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ 102-107 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูง เนื่องมาจากความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้นทั้งในกลุ่มประเทศแถบเอเชียทั้งจีนและอินเดีย จากปลายปี 54 ที่ราคาน้ำมันอยู่ในระดับ 105 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ก็มีปัจจัยลบที่มีผลต่อราคาน้ำมันคือภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ภาระหนี้สินประเทศสหรัฐและยุโรป อีกทั้งต้องติดตามความขัดแย้งของประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่อาจส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบได้

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า BCP วางแผนในงบลงทุนในปี 55 ที่ 7.3 พันล้านบาทและใน 5 ปีข้างหน้า (54-58) จะใช้งบลงทุน 2.55 หมื่นล้านบาท โดยใช้ในการลงทุนโรงไฟฟ้า โรงกลั่น ปรับปรุงโรงกลั่นและในโซล่าร์ฟาร์ม รวมถึงสวนปาล์มน้ำมัน ซึ่งจะสอดคล้องกับเป้าหมายในปีหน้าที่คาดว่าจะมี EBITDA ในระดับ 7 พันล้านบาท จากปีนี้ที่ 6 พันล้านบาท (ไม่รวม stock gain ) และในปี 5 ปีข้างหน้าจะมี EBITDA ราว 1 หมื่นล้านบาท

นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนขยายสถานีบริการ E20 เพิ่มเป็น 600 แห่ง และ E85 เป็น 50 แห่ง เพื่อรองรับการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นและตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่ปลูกน้ำมันปาล์มเป็น 4.5 พันไร่ จาก 1.2 พันไร่ในปีนี้ ส่วนแผนปิดซ่อมบำรุงในช่วงเดือน พ.ค.55 เป็นเวลา 30 วัน

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในต่างประเทศและราคาน้ำมันในประเทศที่ทรงตัวในระดับสูง รวมทั้งผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม จึงอยากเสนอให้ภาครัฐชะลอการเก็บภาษีสรรพาสามิตน้ำมันดีเซลออกไป 3-4 เดือน และไม่ควรเก็บในอัตรา 5 บาท/ลิตรในคราวเดียว เพราะอาจส่งผลให้เกิดการเก็งกำไร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ