บมจ.ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์(TRU)คาดว่ายอดขายของบริษัทในช่วงไตรมาส 4/54 จะลดลงราว 20% จากไตรมาส 3/54 รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยที่มีต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยทั้งระบบ ซึ่งจะทำให้ยอดขายทั้งปี 54 ต่ำกว่าเป้าหมาย โดยคาดว่าจะลดลงเหลือเติบโตเพียง 8-9% แต่อย่างไรก็ตาม ในแง่ของกำไรสุทธิน่าจะยังทำได้ดีกว่าปีก่อน
ส่วนในปี 55 ยอดขายน่าจะกลับมาเติบโตได้สูงถึง 15% เนื่องจากค่ายรถยนต์ต่าง ๆ คงจะเร่งเดินเครื่องการผลิตมาชดเชยในช่วงที่ชะงักไปในช่วงอุทกภัยในปีนี้ พร้อมทั้งคาดว่าจะสามารถสรุปการเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพันธมิตรจากญี่ปุ่นก่อนกลางปีหน้า ขณะที่โรงงานผลิตชิ้นส่วนแห่งใหม่ที่ จ.ระยอง จะเริ่มเดินเครื่องได้ในช่วงไตรมาส 1/55
นายสมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการ TRU เปิดเผยว่า ยอดขายของบริษัทในช่วงไตรมาส 4/54 จะปรับตัวลดลงประมาณ 25% จากไตรมาส 3/54 รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ และคาดว่ายอดขายปี 54 จะเติบโตลดลงเหลือเพียง 8-9% จากเดิมที่คาดโต 15% อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมั่นใจว่ากำไรสุทธิในปีนี้จะยังคงมากกว่าปีก่อน
"น้ำท่วมมองว่าจะส่งผลกระทบแค่ช่วงสั้น ไตรมาส 4/54 ยอดขายคงลดลงประมาณ 25% จากไตรมาสก่อน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับลูกค้าที่ไม่ถูกน้ำท่วมด้วย และเราก็ยังมีลูกค้าที่หนีน้ำท่วมมาหาเราด้วย เราก็ถือว่ายังโชคดีที่ช่วงน้ำท่วมเรายังมีงานอื่นนอกเหนือจากกลุ่มยานยนต์ด้วย เช่น งานใหม่ที่ได้รับเกี่ยวกับเครื่องจักรทางการเกษตร ขณะเดียวกันก็จะมีรายได้พิเศษเข้ามาจากการที่โรงงานอื่นถูกน้ำท่วม แต่เรายังผลิตได้ลูกค้าก็จะเข้ามาจ้างเรา ก็จะเป็นรายได้เพิ่มเข้ามาตั้งแต่เดือนหน้าไปจนถึงไตรมาส 1/55"นายสมพงษ์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในปี 55 คาดว่ายอดขายจะเติบโต 15% หลังค่ายรถยนต์ยี่ห้อต่างๆจะเร่งกลับมาผลิตอีกครั้ง เพื่อชดเชยการหยุดผลิตในช่วงน้ำท่วม ประกอบกับ มองว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปีหน้ายังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีอยู่ คาดว่ายอดการผลิตรถยนต์ในปีหน้าจะเพิ่มเป็น 2 ล้านคัน จากปีนี้ที่คาดไว้ราว 1.5 ล้านคัน ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่คาดไว้ 1.8 ล้านคัน จากผลกระทบของเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในประเทศไทย ประกอบกับน่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการรถยนต์คันแรกของรัฐบาลที่จะหนุนยอดขายรถยนต์ในปีหน้า
"ปี 55 ความต้องการที่จะเร่งผลิตจะมีมาก เพราะดูจากตอนนี้ทั้งผู้ผลิตชิ้นส่วนและผู้ผลิตรถยนต์ก็ไม่ได้มีการปลดพนักงานแต่อย่างใด แต่กลับเร่งสะสมคน และเราในฐานะผู้ผลิตชิ้นส่วน เขาก็อยากให้เราเตรียมพร้อมตลอด คิดว่ากำลังการผลิตโดยรวมจะเริ่มกลับมาเดินหน้าในต้นเดือนหน้านี้ และน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ในไตรมาส 2/55"นายสมพงษ์ กล่าว
ส่วนความคืบหน้าในการก่อสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนแห่งใหม่ที่จังหวัดระยอง คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/54 และสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 1/55 ปัจจุบันก็มีคำสั่งซื้อเข้ามาแล้วจาก GM โดยโรงงานดังกล่าวจะสร้างรายได้ส่วนเพิ่มให้กับบริษัทปีละ 600 ล้านบาท และคาดว่าปีหน้าจะเริ่มรับรู้รายได้ประมาณ 200-300 ล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างมองหาโอกาสทำธุรกิจกับพันธมิตรใสต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเจรจากับพันธมิตรจากญี่ปุ่น โดยคาดว่าช่วงกลางปี 55 น่าจะได้ข้อสรุปการร่วมทุนกับพันธมิตรในต่างประเทศ และคาดว่าภายในไตรมาส 1/55 จะได้ข้อสรุปการขยายการลงทุนห้องพ่นสี
ขณะที่การเข้าประมูลโครงการรถพิเศษทางการทหารมูลค่า 1 พันกว่าล้านบาท แม้บริษัทจะไม่ได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับงานใหม่ แต่ในช่วงไตรมาส 4/54 บริษัทจะเริ่มมีส่งมอบรถให้กับลูกค้า 10-20 คัน มูลค่าเฉลี่ยคันละ 1.4 ล้านบาท