ม.ร.ว.ศุภดิศ ดิศกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้าปริมาณการเติมน้ำมันปี 54 เหลือโต 6.5% จากเดิมที่คาดโต 8% และคาดว่ารายได้ปี 54 จะเติบโตเพียง 7% จากเป้าที่ 9% รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม ทำให้บริษัทต้องหยุดให้บริการเติมน้ำมัน ณ ท่าอากาศยานดอนเมืองเป็นการชั่วคราว
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าระบบการรับและจ่ายน้ำมันที่ท่าอากาศยานดอนเมืองจะกลับมาพร้อมให้บริการอีกครั้งในเดือนม.ค. 55 และคาดว่าปริมาณการเติมน้ำมันจะเริ่มกลับเข้าสู่ระดับปกติภายในเดือนธ.ค. 54 ที่ระดับเฉลี่ย 2 ล้านลิตร/วัน โดยในช่วงวันที่ 1-21 พ.ย. ที่ผ่านมาปริมาณการเติมน้ำมันลดลงเฉลี่ยเหลือ 11.8 ล้านลิตร/วัน จากเดือนต.ค.อยู่ที่ 12.2 ล้านลิตร/วัน
และจากเหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ทำให้บริษัทตัดสินใจที่จะชะลอแผนการลงทุนสร้างถังเก็บน้ำมันแห่งใหม่ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มูลค่าโครงการกว่า 320 ล้านบาทออกไปก่อนในช่วง 1-2 ปีนี้ เพื่อเก็บกระแสเงินสดไว้ใช้ในการซ่อมแซมคลังน้ำมันที่ท่าอากาศยานดอนเมือง
แม้บริษัทจะได้มีการทำประกันภัยความเสี่ยงภัยทุกประเภท (All Risks Insurance) ซึ่งคุ้มครองความเสียหายของสินทรัพย์ทั้งหมดสำหรับสำนักงานใหญ่ที่ดอนเมือง โดยมีจำนวนทุนประกันประมาณ 1.4 ล้านบาทไว้แล้ว แต่การซ่อมแซมต่างๆบริษัทก็จะต้องออกเงินไปก่อน อย่างไรก็ตาม การลงทุนระบบท่อส่งน้ำมันของบริษัทย่อยมูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท ยังคงเป็นไปตามแผนเดิมที่จะลงทุนภายใน 1-2 ปีนี้เพื่อรองรับการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2
สำหรับแนวโน้มรายได้ปี 55 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 3.4% และคาดว่าปริมาณการเติมน้ำมันจะเติบโตราว 4%
ด้านนายฉัตรธัย พันธัย ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการเงินและบัญชี กล่าวว่า การที่รายได้ในปี 54 เติบโตสูงกว่า 6% นั้นเป็นการเปิดโตจากฐานต่ำเพราะปี 53 รายได้ไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากผลกระทบจากเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมือง ขณะที่รายได้ปี 55 ซึ่งบริษัทคาดว่าจะเติบโตเพียงกว่า 3% นั้นถือว่าอยู่ในระดับที่ปกติ เนื่องจากอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ยของบริษัทอยู่ที่ 3-4% ในแต่ละปี