บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์(HMPRO) เปิดเผยว่า ยอดขายของบริษัทในช่วงไตรมาส 4/54 อาจจะเติบโตเพียง 10%ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ว่าจะเติบโตได้ถึง 15% เนื่องจากสาขาของบริษัทหลายแห่งต้องปิดให้บริการชั่วคราวเพราะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม
แต่ก็ยังเชื่อว่าทั้งปี 54 ยอดขายจะเติบโตได้ตามเป้าที่ 15% โดยเฉพาะจากงานโฮมโปร เอ็กซ์โปที่กำลังจะจัดขึ้นในเดือน ธ.ค.ที่น่าจะสร้างรายได้เข้ามาชดเชยได้ และบริษัทจะยังคงราคาสินค้าไว้ในระดับเดิมจนถึงสิ้นปีนี้
นอกจากนั้น บริษัทเชื่อมั่นว่ารายได้จะกลับมาเติบโตได้ดีมากตั้งแต่ไตรมาส 1/55 หลังจากได้เห็นสัญญาณการกลับมาของกำลังซื้อเมื่อระดับน้ำท่วมหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย โดยบริษัทจะขอรอดูสถานการณ์อีกระยะหนึ่ง จึงจะวางเป้าหมายทางธุรกิจในปีหน้า รวมทั้งเพื่อพิจารณาว่าจะมีการปรับขึ้นราคาขายสินค้าหรือไม่ แต่ยังคงเป้าเปิดสาขาใหม่ ใช้เงินลงทุนกว่า 2.5-3.0 พันล้านบาทเน้นในจังหวัดที่เป็นหัวเมืองรอง
นายณัฏฐ์ จริตชนะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มการตลาด HMPRO คาดว่า ยอดขายในไตรมาส 4/54 จะเติบโตต่ำกว่าเป้าหมาย เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมทำให้ต้องปิดสาขาชั่วคราว 8 สาขา และยอดขายของสาขาที่ปิดลดลงเฉลี่ย 5-10% แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทจัดงานโฮมโปร เอ็กซ์โปครั้งที่ 14 ระหว่างวันที่ 10-16 ธ.ค.ซึ่งคาดว่าจะทำยอดขายกว่า 400 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่จัดงานเพียง 3 วันทำยอดขายประมาณ 650 ล้านบาท
ประกอบกับ บริษัทจะจัดงาน"โฮมโปร ซูเปอร์ ช็อค เซลส์"ระหว่างวันที่ 24 พ.ย.- 18 ธ.ค.ที่โฮมโปรและโฮมโปร พลัสทุกสาขา คาดว่าจะมียอดขาย 2-2.5 พันล้านบาท รวมทั้งจะมีการเปิดสาขาใหม่เป็นแห่งที่ 5 ของปีนี้ที่ จ.สกลนคร ในวันที่ 16 ธ.ค. 54 คาดว่าปัจจัยต่างๆ เหล่านี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายทั้งปี 54 เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15%
นายณัฏฐ์ กล่าวว่า ปัจจุบันยอดขายได้กลับสู่ภาวะปกติแล้วจากความต้องการสินค้าซ่อมแซมบ้านหลังน้ำลด คาดว่าจะมีต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 1/55 บริษัทจึงคาดว่าผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/55 จะเติบโตดี
"คิดว่าช่วงเดือนพ.ย.-ม.ค. ปีหน้ายอดขายจะดีขึ้นจากความต้องการสินค้าเพื่อฟื้นฟู หลังน้ำท่วม ซึ่งเสา อาทิตย์ ทีผ่านมาคนก็เยอะขึ้น แต่การใช้จ่ายอาจจะยังไม่มาก และคาดว่าช่วงปลายปี บรรยากาศโดยรวมจะดีขึ้น และเรามีการจัดงาน “HomePro EXPO"ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาไพรม์ไทม์ ก็น่าจะยังทำให้ผลประกอบการปีนี้ยังเป็นไปตามเป้าหมาย" นายณัฏฐ์ กล่าว
สำหรับแผนเปิดสาขาใหม่ในปี 55 มีจำนวน 8-10 สาขา มูลค่า 2.5-3 พันล้านบาท หรือคิดเป็นสาขาละ 300-500 ล้านบาท อาทิ โครงการเมกาบางนา จ.ตรัง ส่วนที่เหลือจะเป็นจังหวัดรอง ทั้งนี้ บริษัท ยังยืนยันจะตรึงราคาสินค้าไปจนถึงสิ้นปี แต่ยอมรับว่าสินค้าบางอย่างอาจจะขาดตลาดบ้าง ส่วนจะปรับขึ้นราคาขายในปีหน้าหรือไม่ อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์