ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางชั้นนำของโลกอีก 5 แห่งที่ประกาศใช้มาตรการบรรเทาภาวะตึงตัวในตลาดการเงินด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยสว็อปสกุลเงินดอลลาร์ และธนาคารกลางจีนประกาศลดเพดานกันสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ (RRR)
ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 168.42 จุด ปิดที่ 5505.42 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ ธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางแคนาดา ธนาคารกลางญี่ปุ่น และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยสว็อปดัชนีข้ามคืน (OIS) ลง 0.5% ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะบรรเทาภาวะตึงตัวในตลาดการเงิน และช่วยให้ธนาคารนอกสหรัฐสามารถระดมทุนดอลลาร์ได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากธนาคารกลางจีนประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 0.5% เพื่อผ่อนคลายภาวะสินเชื่อตึงตัวและเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งขึ้นตามราคาโลหะพื้นฐานในตลาดลอนดอน โดยหุ้นคาซัคมิสพุ่งขึ้น 6.5% หุ้นอันโตฟากัสต้าพุ่งขึ้น 9.2% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้น 3.9%
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นธนาคารลอยด์ แบงกิง พุ่งขึ้น 7.1% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ทะยานขึ้นกว่า 7% และหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส พุ่งขึ้น 6.7%
อย่างไรก็ตาม หุ้นเคร์น เอนเนอร์จี ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจแหล่งสำรองน้ำมัน ร่วงลง 1% หลังจากบริษัทประกาศยุติโครงการขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งกรีนแลนด์